ร้านกุญแจ โทร 082-5966594

ร้านกุญแจ โทร 082-5966594

กุญแจ MASTERKEY คุณภาพเกรด A
KEY ALIKE แม่กุญแจ25มิลลิเมตร ชุบทอง
จัดระบบ KEY ALIKE แม่กุญแจขนาด25 mm
พร้อมจัดระบบKEY ALIKE 100 ตัว = ชุด
ราคาเพียงตัวละ 58 บาท
ใช้สำหรับล็อคคอมพิวเตอร์ แม่กุญแจ ขนาด 38 มิลลิเมตร ชุบทอง
พร้อมจัดระบบKEY ALIKE 100 ตัว = ชุด
ราคาเพียงตัวละ 85 บาท http://alocksmith.hi5.com ร้านเอล็อกสมิธ
บริการเปิดกุญแจนอกสถานที่
ทำกุญแจ จัดระบบมาสเตอร์คีย์ ช่างกุญแจ โทรเลย...! 081-3388499 โทร 082-5966594 "โดยช่างกุญแจมืออาชีพแท้ๆที่ได้รับการ
สืบทอดศิลปศาสตร์แห่งกุญแจจากรุ่นสู่รุ่น
ด้วยศิลปวิชา ด้วยสัจจะและจรรยาบรรณที่เรายึดถึอดุจชีวิต
คุณจึงมั่นใจและไว้วางใจเราได้อย่างมากที่สุด"
http://i489.photobucket.com/albums/rr255/alocksmith/shop/x1.jpg
http://i489.photobucket.com/albums/rr255/alocksmith/shop/x22.jpg
http://i489.photobucket.com/albums/rr255/alocksmith/shop/x4.jpg
http://i489.photobucket.com/albums/rr255/alocksmith/shop/x5.jpg
http://i489.photobucket.com/albums/rr255/alocksmith/shop/x6.jpg ที่ตั้งร้าน
66/132 นวมินทร์ 77 ถนนนวมินทร์
คลองกุ่ม บึงกุ่ม กรุงเทพ 10240
02-734-9884 / 085-9000094 / 081-3388499
....MENU.... เปิดกุญแจ...
ลืมกุญแจในบ้านหรือในรถ ฯลฯ
...จากประสบการณ์ที่ได้ฟังจากลูกค้า เหตุที่"ลืมกุญแจหรือกุญแจหาย" คือ
-ว่าจะ!ก๊อปปี้กุญแจสำรองแต่เอาไว้ก่อน(จึงยังไม่ได้ทำสักที)
-ก๊อปปี้ที่ร้านกุญแจทั่วไปแต่ใช้ไม่ได้ กลับไปแก้ไขที่ร้านเดิม
หลายครั้งก็ยังใช้ไม่ได้ เบื่อหน่าย!!เสียทั้งเงินเสียทั้งเวลา!!
(ไม่รู้จะไปทำกุญแจที่ร้านไหนที่รุ้จริงและกล้ารับประกัน)
-ในขณะที่รถยนต์ยังสตาร์ทอยู่แล้วออกจากรถไปทำธุระคิดว่าไม่นานแต่รถกลับ
ล็อกเองอัตโนมัติ(ส่วนใหญ่ลูกค้าบอกว่าไม่เคยรู้มาก่อนว่ามีระบบล็อกอัตโนมัติ
เพราะคนขายรถไม่เคยบอก จริงๆแล้วคนขายรถเองเคยบอกผมว่าเขาก็ไม่รู้ ขอถือโอกาส
ตรงนี้บอกเลยว่าส่วนใหญ่รถยนต์ตั้งแต่ปี95จะมีระบบนี้)
ด้วยความปรารถนาดีจากใจจริง... ทำกุญแจ...
ก๊อปปี้กุญแจใหม่
บ้าน รถยนต์ มอเตอร์ไซด์
ตู้เอกสาร หรือแม้แต่ก็อปปี้กุญแจแบบสไลท์โดยดอกจากศูนย์
(เช่น เบ็นท์ BMW HONDA) คุณเคยเจอปัณหาแบบนี้ไหม?
เบิกดอกจากศูนย์มาราคาเป็นพันไปจ้างร้านกญแจทั่วไปสไลท์ฟัน
แต่กลับใช้ไม่ได้!!?? หากคุณไม่อยากเจอปัณหาแบบนี้ขอให้ลองใช้บริการกับเรา
ฯลฯ
-มีบริการรับส่ง-พร้อมรับประกันคุณภาพทุกดอกต้องไขได้
หรือมาใช้บริการที่ร้านรับส่วนลดทันที15%
ซ่อมกุญแจ...
กุญแจหักคามีดอกแต่ไขไม่ได้
ดอกสึกไขลำบาก เปลี่ยนกุญแจ...
กุญแจเสียเกินซ่อม หรือ เพื่อความมั่นใจ
กุญแจตู้เอกสารสำนักงาน ตู้ไม้
ประตูบ้าน กระจก อลูมิเนียม ฯลฯ ดัดแปลง...
จัดระบบ MASTER KEY สำนักงาน
โรงแรม บ้าน ฯลฯ (หรือกุญแจรุ่นเดียวกัน
ตั้งแต่ 2 ชุดขึ้นไป)
ดัดแปลงรหัสภายใน ประหยัดกว่า และ
ป้องกันสวมรอยด้วยดอกกุญแจที่หายไป
...บ้านหรืออาคารที่กำลังสร้างควรจัดระบบ Master Key
ก่อนอื่น....Master key คืออะไร?
Master Key คือการเพื่มรหัสชั้นที่2ชั้นที่3เข้าไปให้กับแม่กุญแจในแต่ละชุดเพื่อเป็นการจัดระบบให้สอดคล้องกัน
ระหว่างแม่กุญแจในกลุ่มนั้นๆ
พออธิบายง่ายๆได้ว่า สมมุติตึกหนึ่ง มี 30 ห้อง อาจจะเป็นคอนโดฯ ,โรงแรม หรือ สำนักงาน
เมื่อเจ้าของตึกต้องการไขกุญแจทั้งตึกนี้จะต้องเจอปัญหา คือ
1. ต้องถือดอกกุญแจเป็นจำนวนมาก
2. กว่าจะหาดอกกุญแจเจอในการไขต้องสับสนอยู่นาน
3. ดอกหายไปบางห้องก็อาจยังไม่รู้
4. เมื่อดอกกุญแจหายแล้ว แต่ห้องยังล็อกอยู่ ถึงตอนนี้จะต้องปวดหัวยกใหญ่
5. ฯลฯ
แต่ถ้าจัดระบบ Master Key แล้ว ปัญหาพวกนี้จะหมดไป เพราะการจัดระบบ Master Key ทำให้
เจ้าของตึกมีกุญแจเพียงแค่ 1 ดอกก็สามารถไขได้ทั้งตึกทั้งหมด 30 ห้องได้สะดวกสบาย ในขณะที่ 30 ห้องนั้นก็ยัง
มีดอกของตัวมันเอง
Master keyจึงเป็นทางเลือกหนึ่งที่ไม่อาจมองข้าม โดยเฉพาะอย่างยิ่งแล้วสำหรับอาคาร สำนักงานที่เพิ่งเริ่มก่อสร้าง
ครวจะมีการวางแผนจัดระบบMaster key ตั้งแต่ต้น เพราะถ้าปล่อยให้ขั้นตอนวางแผนการจัดระบบMaster key
ผ่านเลยไป เมื่อเราเริ่มเห็นปัญหาดังกล่าวแล้วจึงคิดจะกลับมาจัดระบบที่หลังจะเป็นการยากกว่าและเป็นการเสียค่าใช้จ่าย
ซ้ำซ้อน อย่างไรก็ดีการจัดระบบMaster key ที่ดีและรอบคอบนั้นต้องปรึกษากับช่างที่รุ้จริงและมีประสบการณ์โดยตรง
Master keyสามารถจัดระบบได้ตั้งแต่แม่กุญแจรุ่นเดียวกันตั้งแต่สองชุดขึ้นไป... อื่นๆ ฯลฯ...
ยินดีให้คำปรึกษา 085-9000094 / 081-3388499
หรือ [email protected]
....แถมท้ายสำหรับคำถามที่ a Locksmith เจอบ่อย(เป็นหมื่นครั้ง).... ถาม? มีกุญแจอะไรไหมที่สามารถป้องกันขโมยได้100%อยากมีไว้ล็อกบ้านล็อกรถจะได้มั่นใจ นอนหลับ...
ตอบ! จากประสบการณ์ที่ฝึกเป็นช่างกุญแจและเริ่มประกอบอาชีพนี้กับพ่อมาตั้งแต่เด็ก ทำให้เจอคำตอบที่ชัดเจนและ
มั่นใจมาก ดุจดังได้ค้นพบสัจจะธรรม(อะไรจะปานนั้น) ขอตอบว่า "เสียใจด้วย" ไม่มี!!! ย้ำอีกครั้ง ไม่มีกุญแจไหนในโลก
ที่สามารถกันขโมยได้100%! "ในเมื่อคนคิดได้คนก็ต้องแก้ได้" กุญแจที่ดีที่สุดในจักวาลยังทำได้แค่ถ่วงเวลาเจ้าหัวขโมย
ให้ช้าที่สุดเท่านั้น (ป้องกันได้เพียงแค่นี้ก็พอให้เรานอนหล้บได้แล้วนะครับ) ถาม? กุญแจที่เขาเรียกว่ากุญแจผีนั้น สามารถไขทุกแม่กุญแจได้จริงหรือ
ตอบ! ความจริงแล้วเป็นเพี่ยงข่าวลือหรือความเชื่อที่เพี้ยนไปจากความจริงเท่านั้น "กุญแจฟรุ๊ค" เป็นคำที่ควรใช้แทนคำว่า
กุญแจผี เพราะหลักการ(แบบฟรุ๊คๆ)ของมัน คือ จะต้องใช้กุญแจลักษณะเดียวกันมากๆส่วนใหญ่จะต้องเป็น100ดอก
หรือมากกว่านั้น 1 ในนั้นอาจมีสัก 1 ดอกและจะต้องในบ้างจังหวะด้วยที่อาจไขได้ แต่กรณีของช่างกุญแจอย่างผมใช้เป็น
ลักษณะลวด แต่ก็ไม่อยากให้ใครเรียกว่าลวดผีหรือกุญแจผีเหมือนกัน เพราะว่าการที่จะใช้ลวดไขออกได้นั้น ลวดมีผลน้อย
อาจไม่ถึง10% แต่ต้องใช้ฝีมือและประสาทสัมผัสมาก อาจมีผลมากกว่า90% ลวดของช่างอย่างผมเรียกว่าลวดเขี่ย
แต่ผมอยากเรียกว่า ลวดพระหรือกุญแจพระมากกว่า(เพราะผมไม่ชอบผี!) ถาม? ระหว่างช่างกุญแจกับเจ้าหัวขโมย ใครเปิดกุญแจได้เร็วกว่ากัน (จริงๆแล้วคือกลัวช่างเป็นขโมย!!!!....)
ตอบ! จริงๆแล้วช่างกุญแจก็กลัวขโมยเหมือนกัน! เพราะถ้าช่างกุญแจเปิดอย่างเร็วอาจใช้เวลา2นาที แต่ขโมยจะเปิดแค่30วินาที
สาเหตุก็เพราะว่าขโมยใช้วิธีแบบทำลาย "ส่วนช่างใช้วิธีแบบสร้างสรรค์"ถนอมกุญแจของลูกค้าเป็นสำคัญ และต้อง
ใช้สมาธิมากด้วย ลองคิดดูว่าถ้าขโมยใช้วิธีถนอมกุญแจแบบเดียวกับช่าง ที่ต้องใช้สมาธิเป็นหลัก ตำรวจมายืนรอจับอยู่ข้างหลัง
แล้วก็อาจจะยังไม่รู้ตัวหลายคนคิดว่าช่างกุญแจกับเจ้าหัวขโมยคงเป็นเพื่อนสนิทกันคงจะเหมือนกัน แต่ความจริงแล้วไม่รู้จักกัน
ตรงกันข้ามกลับต่างกันอย่างสิ้นเชิง ทั้งแนวคิด วิธีการทำงาน และวิธีการใช้ชีวิต ผมทำงานกุญแจมาประมาณ20ปีไม่เคยคบเพื่อน
ที่เป็นขโมย ไม่เคยเห็นเพื่อนที่เป็นช่างกุญแจไปเป็นขโมยเพราะส่วนใหญ่ช่างที่อายุงานขนาด10-20ปีจะเป็นช่างกุญแจแท้ๆ
ต้องให้สัจจะก่อนที่เรียนวิชากุญแจจากอาจารย์ สมัยก่อนไม่สอนกันง่ายๆและไม่เก็บค่าเรียนสักบาท ค่าเรียนก็คือสัจจะที่ต้องปฏิบัติ
ห้ามผิดสัจจะ ต้องเรียนจริงจังให้ถึงวิชาอย่างตั้งใจ "ช่างกุญแจอย่างผมน่าจะกลัวขโมยมากกว่าคนทั่วไป" เพราะผมรู้ว่าขโมยคิดอะไร!!!
แถมท้ายอีกที.....
หากใครคิดอยากเรียนทำกุญแจ หรือ เรียนเปิดกุญแจ เพื่อทำอาชีพ เพื่อสนุก หรือเพื่อเป็นนักโจรกรรม
ไม่ว่าจะด้วยเหตุผลอะไรก็ตาม ลองอ่านบทความนี้จากคนที่ได้เรียนทำกุญแจมาแล้ว เป็นประสบประการณ์จริง
เป็นบทความที่ได้ลงหนังสือ ต่วย’ตูย ปีที่ 34เล่มที่ 10 มกราคม 2548 โดย"สันแจง" "หมองูอายเพราะงู" ("สันแจง" เขียน)
จั่วหัวเรื่องไปแล้วว่าหมองูอายเพราะงู แต่ถ้าแฟนานุแฟนต่วย"ตูน อ่านจบแล้ว
ไม่เจอหมอซักตัว ไม่เจองูซักคน เอ๊ย..ไม่เจอหมอซักคนงูซักตัวละก็ งานนี้ผู้เขียน
มีหวังถูกสาปแช่ง(ตื้บไม่ได้)เละแน่ ฉะนั้นขอชี้แจงไว้ย่อหน้าแรกนี้เลยว่า หมองูอาย
เพราะงู เป็นเพียงคำเปรียบเทียบ เรื่องนี้ไม่มีหมอไม่มีงู มีแต่กุญแจล้วน ๆ (เอ๊ะ..ยังไง)
ถ้าอยากรู้ก็ลองนึกภาพผู้หญิงคนหนึ่งต้องมาประกอบอาชีพช่างทำกุญแจ มันจะนำพาเรื่องน่าอาย
อะไรมาให้ได้บ้าง ขอเชิญติดตาม
อาชีพทำกุญแจ หรือที่บางคนเรียว่าก๊อปปี้กุญแจหรือปั๊มกุญแจนั่นแหละ เป็นอาชีพที่ใครหลายคนมองว่า
เป็นอาชีพข้างถนน(ผู้เขียนก็คิดอย่างนั้น ก็มันอยู่ข้างถนนจริงๆ)เป็นอาชีพคู่แฝดกับอาชีพซ่อมนาฬิกา
(ไม่รู้คู่กันมาตั้งแต่ชาติปางไหน)ที่ไหนมีตู้ทำนาฬิกาที่นั่นต้องมีตู้กุญแจ แต่เรื่องนี้ไม่ขอพูดเรื่องนาฬิกา
ขอพูดเรื่องกุญแจล้วนๆอย่างที่บอก อาชีพที่หลายคนจัดไว้นอกสายตา แต่ใครเลยจะรู้ว่าคนจบปริญญาตรีหลายคน
มีอาชีพทำกุญแจจบปริญญาโทก็มีให้เห็นอยู่แถวรามคำแหง
อะไรที่ทำให้พวกเขาออกจากออฟฟิศกระโดดมานั่งดมควันพิษข้างทาง ถ้าลองพิจารณาข้อมูลต่อไปนี้แล้ว
ผู้อ่านอาจจะได้กุญแจไขคำถามที่อยู่ในใจ
เมื่อมีรถก็ต้องมีกุญแจ เมื่อมีบ้านก็ต้องมีกุญแจ มีหลายห้องก็มีกุญแจหลายดอก หนึ่งห้องมีประตูหลายชั้น
ก็ต้องมีกุญแจเพิ่ม ภายในห้องมีทั้งตู้มีทั้งลิ้นชัก กลัวของหายก็ต้องใส่กุญแจ รถหนึ่งคันขับกันหลายคนก็ต้องทำ
กุญแจเพิ่ม บ้านหนึ่งหลังอยู่กันหลายคนกลับบ้านไม่พร้อมกันก็ต้องทำกุญแจเพิ่มเพื่อนมาขออยู่ชั่วคราวก็ต้องทำ
กุญแจเพิ่ม กุญแจหายก็ต้องทำกุญแจใหม่ คนใช้ลาออกก็ต้องทำกุญแจใหม่ยกชุด(เดี๋ยวมันกลับมายกเค้า)
บางครั้งกุญแจไม่หายก็ต้องทำสำรองไว้เพราะกลัวมันหายโดยเฉพาะรถยนต์ถ้าทำกุญแจหายค่าเปิดรถครั้งละ
หลายร้อย ส่วนค่าก๊อปปี้กุญแจรถทั่วไปก็ดอกหัวเหล็ก ๔๐ ดอกหัวยาง ๘๐ สวยหน่อย ๑๐๐-๑๒๐ ถ้าทำในห้าง
ก็คิดค่ากุญแจแช่เย็น(เปิดแอร์)อีก ๒๕% กุญแจบ้านธรรมดาก็ดอกละ ๑๕-๒๕บาท ส่วนต้นทุนเท่าไหร่
กำไรเท่าไหร่ไม่ต้องมาถาม ถึงลุงต่วยจะให้ค่าเรื่องมากแค่ไหนก็บอกไม่ได้ เพราะนอกจากจะผิดจรรยาบรรณ
อาจถูกเพื่อนร่วมอาชีพตื้บเอาได้ง่ายๆ
และหากใครคิดจะเปิดร้านกุญแจซะวันพรุ่งนี้เลย ขอให้อ่านข้อมูลด้านล่างก่อน
ครั้งหนึ่งเมื่อผู้เขียนกำลังตกงานแต่มีความจำเป็นต้องหาอะไรทำ เนื่องจากไม่กล้าแบมือขอเงินพ่อแม่
เหมือนตอนเด็ก(ถึงขอก็ไม่ให้) จึงบังเกิดความคิดขึ้นมาว่าไหนๆก็มีพี่ชายเปิดร้านซ่อมนาฬิกาอยู่แล้ว
ก็น่าจะเปิดร้านทำกุญแจอีกซักร้านจะได้ครบสูตรไปเลย ทั้งๆที่ปากซอยมีอยู่แล้วหนึ่งร้าน แต่ก็ยังทำใจด้านๆ
แย่งอาชีพเขามาซะอย่างนั้นแหละ
คราวนี้ทำอย่างไรดีละ เคยเห็นซะที่ไหนเครื่องทำกุญแจ ไม่เคยเอากุญแจไปก๊อปปี้ที่ไหน หุ่นกุญแจ
(ดอกกุญแจที่ยังไม่มีเขี้ยวหรือรอยหยักบนตัวกุญแจ)ก็ไม่เคยเห็น หลังจากหาข้อมูล ๒-๓ วัน ก็จัดการกู้เงิน
แบบไม่มีดอกเบี้ยมาลงทุน(เงินกู้ที่ไม่มีดอกเบี้ยคือเงินที่ยืมจากญาติ แต่ก็พูดยาก เพราะบางรายพ่อแม่พี่น้อง
ยังไม่เว้น) เครื่องทำกุญแจบวกหุ่นกุญแจจำนวนหนึ่ง เริ่มต้นที่ ๓๐,๐๐๐บาท(ลงทุนเยอะกว่าขายก๋วยเตี๋ยวอีก)
เพราะฉะนั้น ใครที่คิดว่าอาชีพกุญแจกระจอกต้องปรับทัศนคติใหม่ แถมเปิดร้านไปซักพักจะรู้ว่าสามหมื่นบาท
มันแค่เล่นขายของ จะต้องซื้อกุญแจเข้าร้านอีกมากมายซึ่งงบก็จะบานปลายไปเรื่อยๆแบบขี่หลังเสือแล้วลงไม่ได้
ได้เครื่องมาฝึกหัดตัดกุญแจ ๒วันก่อนเปิดร้าน (แบบตัดเล่นตัดเสียโยนทิ้งไปเรื่อยๆเดี๋ยวก็เก่งเอง
ถ้าไม่เจ๊งซะก่อน)วิธีตัดก็ไม่ยาก ไม่ต้องใช้ฝีมืออะไร เครื่องมันทำเองทั้งหมด เพียงแต่เอากุญแจชนิดกัน ๒ ดอก
ดอกหนึ่งมีเขี้ยว อีกดอกยังไม่มีเขี้ยว เอาเข้าเครื่องซึ่งมีหน้าตาเหมือนด้ามจับ ๒ ข้าง จัดการหนีบกุญแจไว้ข้างละดอก
แล้วเราก็ดันด้ามจับเข้าหาใบมีดเครื่องจะตัดกุญแจดอกที่ไม่มีเขี้ยวจนเหมือนดอกที่มีเขี้ยว เสร็จแล้วไขได้ไม่ได้
อีกเรื่องหนึ่ง เดี๋ยวจะวนมาบอกว่าเพราะอะไร ที่แน่ๆถ้าตัดเร็วเกินไปหรือหนีบกุญแจไม่แน่น หรือกดด้ามจับเข้าหา
ใบมีดแรงเกินไปอาจเป็นเหตูให้ใบมีดหักได้ ต้องเปลี่ยนใหม่ใบละ ๒,๖๐๐ ผู้เขียนทำหักไปแล้ว ๒ ใบ(เจ็บลึก)
แถมวันดีคืนดีเศษกุญแจยังกระเด็นเข้าตาให้ต้องมานั่งเขี่ยออกจนตาแดงแทบอักเสบ
เค้าว่าเกลียดอย่างไหนมักได้อย่างนั้น ชีวิตนี้ผู้เขียนเกลียดที่สุดคือเหล็กเสียดสีกัน แต่ต้องมาเจอแบบ
หลีกเลี่ยงไม่ได้ ตัดกุญแจด้วยเครื่องเสร็จก็ต้องเอาตะไบถูเศษทองเหลือง(กุญแจทำจากทองเหลือง)ที่ติดตาม
เขี้ยวกุญแจออกจนเกลี้ยงเกลา เสียงตะไบถูลูกกุญแจฟังเสียวไปถึงไหนๆ ทำไปได้ซักเดือน นอกจากจะค้นพบว่า
มือเริ่มหยาบขึ้น ข้อเริ่มแตก(หนุ่มๆมาจับมือแล้วต้องสะดุ้งอาจถึงขั้นถอนหมั้น) ผู้เขียนยังค้นพบว่าเรา(พี่ชาย
และผู้เขียน)ทำกุญแจเสียไปมาก คือไขไม่ออกเยอะ น่าจะมาจากการที่พวกเราไม่มีความรู้เรื่องกุญแจ เมื่อไม่มี
ก็ต้องไปเรียน ซึ่งถ้ามีความรู้ นอกจากจะไม่ทำกุญแจเสียแล้ว เราก็สามารถรับงานนอกได้ด้วย เช่น เปิดบ้าน เปิดรถ
สะเดาะกุญแจ ทำดอกกุญแจใหม่เวลาคนทำกุญแจหาย ซึ่งจะนำพารายได้มาให้อีกมากมาย ผู้เขียนเริ่มดีดลูกคิด
"เอาที่ค่าเรียนถูกที่สุดแล้วกัน"ทุกคนคิดตรงกัน ทั่วๆไปรับสอนอยู่ในราคา ๑๐,๐๐๐ ขึ้นไป แต่ผู้เขียน
ได้ที่เรียนในราคา ๓,๕๐๐(อย่าลืมจดรวมกับต้นทุนด้วยละ ค่าอุปกรณ์อีกพันกว่าบาท)หลังจากใช้เวลาเรียน ๑ เดือน
(จริงๆ ๗ วันก็จบเวลาที่เหลือรออาจารย์เล่นคอมพิวเตอร์กับดู UBC จนพอใจแล้วคอยสอน) สิ่งที่ได้คือที่หยาบ
อยู่แล้วหยาบขึ้นไปอีก เพราะการตะไบเขี้ยวกุญแจด้วยมือมันทำให้มือพังเร็วกว่าทำด้วยเครื่องเยอะ (ถ้าเป็นผู้ชาย
อาจจะไม่คิดอย่างนี้ก็ได้)แต่ก็ได้ความรู้มากมาย รู้ว่าเขาทำเขี้ยวกุญแจด้วยตะไบกันยังไง แกะไส้หัวกุญแจออกมายังไง
กุญแจรถยนต์มีเขี้ยว(รหัส)เยอะกว่ากุญแจบ้าน เป็นเหตุให้ทำยากกว่า ได้หัดทำกุญแจลิ้นชัก ได้รู้ว่าการผ่าลูกบิด
(รื้อชิ้นส่วน)แล้วประกอบเข้าไปใหม่สนุกอย่าบอกใครเชียว ได้รูว่าแม่กุญแจเขาสะเดาะกันได้ แต่ถ้าเป็นโซเลค
(หัวกุญแจที่ถ้าไม่ล็อคก็ถอดลูกกุญแจออกมาไม่ได้)ไม่ต้องสะเดาะให้เมื่อยตุ้มต่อให้เลื่อยก็ไม่ออกแต่มันมีเทคนิค
(ไม่บอก)
เอ๊ะ! แล้วเมื่อไหร่หมองูจะอายเพราะงูซะที ใจเย็น-ใกล้แล้ว เมื่อเรียนจบแล้วมันก็ร้อนวิชาจริงมั้ย
เช้าวันหนึ่งเมื่อมีคนมาตามไปปิดลูกบิดประตูห้องเนื่องจากลืมกุญแจไว้ข้างใน ผู้เขียนกับพี่(ต้องไป ๒คน เป็นสาว
เป็นแส้เข้าบ้านคนแปลกหน้าตามลำพังได้ไง)ก็สะพายกระเป๋าซึ่งเต็มไปด้วยอุปกรณ์งัดแงะตรงไปยังบ้านเหยื่อ เอ๊ย..
บ้านลูกค้าทันที ๑๐ นาทีผ่านไปที่ผู้เขียนก้มๆเงยๆเขี่ยสะเดาะรูกุญแจลูกบิดเหงื่อไหลลงข้างแก้มจนคอเสื้อเปียก
ไม่แน่ใจว่าเพราะร้อนหรือเพราะอาย สุดท้ายพี่ชายต้องหาทางออก เพราะถ้าจะให้กลับบ้านโดยที่เปิดประตูไม่ได้
คงเสียฟอร์มแย่ "ขอเลื่อยได้มั้ยพี่" พี่ชายขออนุญาตเจ้าของบ้าน "ตามสบายพี่"(เจ้าของบ้านไม่บ้าก็เมา)
เขาเรียกเรามาสะเดาะกุญแจไหงกลายเป็นทำลายกุญแจไปได้ ลูกกุญแจเขาก็ไม่ได้หาย เพียงแต่เราสะเดาะได้
เขาก็เข้าไปเอากุญแจในห้อง แต่ถ้าทำลายลูกบิด กุญแจในห้องก็ไม่ต้องใช้อีกต่อไป หมายความว่าถ้าเลื่อยเสร็จแล้ว
เขาต้องเสียค่าจ้างและเสียเงินไปซื้อลูกบิดใหม่มาใส่ด้วย
นอกจากไม่เชี่ยวชาญด้านสะเดาะแล้ว ผู้เขียนยังไม่มีแรงเลื่อยอีกด้วย ฉะนั้นหน้าที่นี้ขอมอบให้พี่ชาย
ที่แสนดี ครึ่งชั่วโมงผ่านไปพี่ยืนเลื่อยจนมือสั่น อวัยวะส่วนอื่นพลอยสั่นไปด้วย(หมายถึงใจ)เหนื่อยจนหอบ เจ้าของบ้าน
ทำหน้ากลืนไม่เข้าคายไม่ออก(กูไปตามมันมาทำไมวะเนี่ย)และแล้ว ๑ ชั่วโมงผ่านไปเราก็หั่นลูกบิดออกเป็น
หลายท่อน พร้อมกับรับค่าแรงที่ตกลงกันไว้ ๑๕๐ บาท แต่ตอนนี้เห็นอยู่ว่าไม่คุ้มเลย เจ้าของบ้านก็ไม่คุ้ม เราก็ไม่คุ้ม
ครั้นจะไม่เก็บเงินเนื่องจากละอายแก่ใจก็ไม่ได้เพราะเราเสียไปแล้ว ๓ ต่อคือ เสียแรง เสียหน้า และเสียลูกค้า
๑๕๐ บาทนี้เจ้าของบ้านคงจำไปอีกนานเพราะเขาให้เราในฐานะ "ขอบใจนะที่ช่วยมาทำลายข้าวของกู" (เลื่อยซะ
กระจุยแบบนี้โจรมันก็ทำได้ ไม่ต้องจ้างด้วย)
ให้เป็นที่ฉงน ทำไมเรียนมาแล้วถึงสะเดาะไม่ได้ ผู้เขียนจัดการฝึกสะเดาะทุกอย่างในบ้าน
ไม่ว่าจะเป็นตู้เสื้อผ้า ตู้เอกสาร ประตูห้องนอน ประตูกระจก จนแม่ผู้เขียนหวาดผวาเกรงว่าจะไปสะเดาะเซฟนิรภัย
ของท่าน สุดท้ายผู้เขียนทำกุญแจประตูกระจกพังไป ๒ ตัว ฝึกงัดแงะรถบ้านตัวเองจนกระจกปิดไม่สนิท ฝนตกน้ำสาด
เข้ารถ จึงถูกแม่ออกคำสั่งให้หยุดปฏิบัติการทุกอย่าง ไม่งั้นตัดแม่ตัดลูก
ยังไม่เข็ด เมื่อมีลูค้ารายใหม่ให้ลองวิชา คราวนี้มี ๒ ประตู ประตูรั้วเป็นแม่กุญแจ ประตูในเป็นลูกบิด
ผู้เขียนเขี่ยสะเดาะแม่กุญแจด้วยท่าทางน่าศรัทธาใน ๑ นาทีแรก และน่ารำคาญใน ๙ นาทีต่อมา(ความคิดของเจ้าของ
บ้าน)
"ทำไมไม่ออกวะ" ผู้เขียนคิดวินาทีนั้นคิดถึงอาจารย์ขึ้นมาจับใจ ไม่ใช่รำลึกในพระคุณ แต่รำลึกถึง
ค่าเล่าเรียน รีบโทรศัพท์ไปปรึกษาวางโทรศัพท์แล้วไม่โทษใคร (ก็เลือกเรียนแบบ ๓,๕๐๐ เองนี่หว่า)สุดท้ายสูตรเดิม
พี่ชายยืนเลื่อยแม่กุญแจขนาดใหญ่ท่ามกลางแดดเปรี้ยงๆ ลองนึกภาพเอง ต่อให้เป็นโจรมันยังต้องรอแดดร่มลมตกเลย
๑ ประตูผ่านไป ประตูที่ ๒ เป็นลูกบิด ผู้เขียนเข้าไปเขี่ยๆรูกุญแจพอเป็นพิธี เมื่อแน่ใจว่าไม่เกิดปาฏิหาริย์
ก็ให้พี่ชายทำต่อ เจ้าของบ้านถือมีดมา สอดเข้าไปงัดตรงซอกประตู ๒-๓ ที เอามือตบกระแทกๆประตูก็หลุดเปิดออก
แล้วหมองูก็อายเพราะงูแบบแทบไร้แผ่นดินอยู่ พวกเราเก็บของกลับบ้านไม่ขอรับค่าแรง แต่เจ้าของบ้านใจดีเอาเงินให้
พอเป็นค่าซื้อเกลือแร่ชดเชยเหงื่อที่เสียไป ส่วนหน้าที่แหกไปคงไม่มีค่าใช้จ่ายอะไรเพราะงานนี้หมอไม่รับเย็บ
จู่ๆมีพนักงานบริษัทส่งเนื้อนกกระจอกเทศมาเรียกไปทำประตูลูกบิดตั้ง ๖-๗ ประตูแน่ะ ตอนนี้เพิ่งได้
เครื่องมือหากินมาใหม่ เป็นอุปกรณ์เปิดลูกบิดแบบสำเร็จรูป งานนี้ไม่มีหน้าแตกแน่นอน(เอ๊ะๆ-ใครที่คิดมิดีมิร้ายอยู่
ในสมองอย่าได้ทำตาโต อุปกรณ์ชนิดนี้ไม่มีขายตามท้องตลาดหรือห้างสรรพสินค้าถ้าอยากรู้ถามสาวยาคูลท์ดู)
และแล้ว ผู้เขียนและพี่ก็ร่วมกันถอดลูกบิดจากบริษัทส่งเนื้อนกกระจอกเทศเพื่อมาทำดอกกุญแจใหม่
กลิ่นเนื้อนกกระจอกเทศเหม็นคาวคลุ้งอยู่ทุกชั้นจนเกือบทนไม่ได้ ต้องใช้คาถาสะกดในใจว่า เพื่อเงินๆๆ ตอนถอดก็
ไม่มีปัญหาอะไร ตอนไปติดตั้งนี่สิ ใครที่เคยถอดลูกบิดไปให้ช่างกุญแจทำดอกใหม่(ผู้ชายบางคนถอดเป็น)
คงพอรู้ว่าที่ลูกบิดฝั่งด้านในประตูจะมีรูให้เอาของแข็งแหลมกดเข้าไป จะสามารถทยอยถอดลูกบิดออกมาได้ทั้งตัว
และตอนประกอบกลับเข้าที่ต้องประกอบทุกชิ้นส่วนให้ตรงที่เดิม มิฉะนั้นลูกบิดจะค้าง ทีนี้วันไปประกอบลูกบิด
พี่ชายกับผู้เขียนแยกย้ายกันไปประกอบเพราะมีหลายห้อง แต่ด้วยความที่พี่ชายไม่ได้เรียนมาจึงประกอบผิด เป็นเหตุ
ให้ลูกบิดค้างขังตัวเองอยู่ในห้องซึ่งไม่มีหน้าต่างและเครื่องมือทุกชิ้นอยู่กับผู้เขียนหมด พี่ตะโกนให้ผู้เขียนเอาเครื่องมือ
มาเปิดจากด้านนอก แต่ผู้เขียนไม่มีแรงจึงต้องตะโกนตามคนงานผู้ชายด้านล่างมาช่วย เสียงคนงานหัวเราะกันคิกคัก
จากด้านล่างดังถึงชั้นบนจนผู้เขียนอยากแปลงร่างเป็นแมลงสาบมุดเข้าซอกประตูให้รู้แล้วรู้รอด
ผลปรากฏว่าคนงานมีแรงดี แต่ควบคุมเครื่องมือไม่เป็น เลยเปิดไม่สำเร็จ พี่ตะโกนออกมาว่าร้อนมาก
อากาศจะหมดอยู่แล้ว ผู้เขียนพยายามค้นหาซอกประตูทั้งด้านบนด้านล่าง ด้านข้าง ให้เจอช่องว่างซักนิดเพื่อสอดเหล็ก
แหลมเข้าไปให้พี่กดรูลูกบิดแล้วถอดชิ้นส่วนออกมาให้หมดก็จะสามารถเปิดประตูได้ โชคดีด้านล่างมีช่องว่างแคบๆ
และแล้วพี่ก็โผล่ออกมาในสภาพเหงื่อท่วมตัว พร้อมด่าผู้เขียนเป็นชุดที่ไม่สอนวิธีประกอบ เจ้าของบ้านให้ซ่อมประตู
กระจกเพิ่มอีกบาน นึกถึงประตูกระจกที่บ้านที่ผู้เขียนทำพังยังไม่มีใครรับผิดชอบจึงปฏิเสธลูกค้าไป รีบรับค่าแรงแล้ว
กลับบ้านโดยด่วน
เมื่อเลิกรับงานนอก ผู้เขียนเลยต้องหันมารับงานใน คือรับทำดอกกุญแจใหม่(ไม่ใช่ก็อปปี้)ไม่ว่า
จะเป็นแม่กุญแจ รถ ตู้ ลิ้นชัก ถาม :"ทำได้เหรอ" ตอบ:"แฮ่ะๆตอนเรียนเคยทำอย่างละดอกเท่านั้น"
บางอย่างก็ดูแต่ไม่ได้ทำ ไม่เป็นไร อันไหนทำไม่ได้(ไม่มีอันไหนทำได้เลย)พอหิ้วไปบ่อยๆเริ่มคิดได้ว่า ไม่คุ้มรับงาน
ชิ้นละ ๑๐๐ กว่าบาท อาจารย์ทำให้ฟรี แต่ค่าน้ำมันไปหา ๑๐๐ บาท แถมเสียเวลาครึ่งวัน เลยเลิกรับงาน เอาเวลามา
เขียนเรื่องสั้นส่ง "ต่วย’ตูน"ยังคุ้มกว่า พอมีคนมาตามไปเปิดประตูพี่ผู้เขียนก็ชวนเขาเลื่อยกุญแจทิ้งโดยให้เช่าเลื่อย
ในราคา ๔๐บาท เป็นไงรายได้เสริมของผู้เขียน
ทีนี้ ก็มาว่ากันถึงเรื่องกุญแจที่ว่าทำไมบางครั้งก๊อปปี้กลับบ้านมาแล้วถึงไขไม่ได้ ขอบอกตรงนี้เลยว่า
ทำกุญแจแล้วไม่ได้ไขได้ ๑๐๐% ถ้าใครทำแล้วไขไม่ได้ขอความกรุณาอย่าโมโหและอย่าโทษช่างทำกุญแจเพราะ
ความผิดทั้งหมดอยู่ที่ตัวกุญแจต่างหาก(จริงๆเรื่องนี้ละเอียดอ่อนมาก ต้องคุยกันยาวและไม่แน่ใจว่าจะอธิบายให้ผู้อ่าน
เข้าใจตามจุดประสงค์หรือเปล่า ถ้ายังไงก็ขออภัยไว้ ณ ที่นี้)
สาเหตุที่ทำให้กุญแจที่ทำมาไขไม่ได้ อย่างแรกคือกุญแจที่เอาไปเป็นแบบกับกุญแจที่ก๊อปปี้มา
ไม่เหมือนกัน ๑๐๐% หมายความว่าเป็นชนิดเดียวกัน ดูตาเปล่าเหมือนกัน แต่อาจจะหนาบางกว่ากัน อันเนื่องมาจาก
ผลิตจากคนละโรงงาน คนละแม่พิมพ์ โรงงานที่ผลิตงานไม่ได้มาตรฐานมีเยอะ การทำงานของเครื่องทำกุญแจคือการ
ทำวัตถุข้างขวาเลียนแบบวัตถุข้างซ้ายภายใต้เงื่อนไขขนาด-รูปร่างและความหนาของวัตถุต้องเหมือนกัน ฉะนั้น เมื่อ
กุญแจต่างกันแม้เพียงนิดเดียวก็มีผลต่อความลึกของเขี้ยวทำให้เพี้ยนไปจากต้นฉบับ เพี้ยนน้อยก็พอไขได้ เพี้ยนมาก
ก็ไขไม่ได้
วิธีแก้ไขก็คือตั้งใบมีดใหม่ให้ตื้นขึ้นหรือลึกขึ้น(ไม่ควรตั้งบ่อยจะทำให้เครื่องรวน)ให้สอดคล้อง
กับกุญแจเจ้าปัญหาดอกนั้นโดยเฉพาะ แต่บางครั้งก็ยังไขไม่ได้(บอกแล้วว่าละเอียดอ่อน)จนเกิดกรณีแก้แล้วแก้อีก
ทำให้ ๒ ฝ่ายรำคาญซึ่งกันและกัน คือช่างกุญแจไม่เชื่อว่าแก้แล้วจะใช้ไม่ได้ ทำไมช่างคนนี้มันคาราบาวอย่างนี้
เว้นเสียแต่ลูกค้าจะเอาหัวกุญแจหรือถ้าเป็นรถก็เอามาจอดลองแก้ลองไขพิสูจน์กันตรงนั้น แต่ถ้าเป็นกุญแจประตูบ้าน
ก็จนใจ แต่บางคนก็อุตส่าห์ถอดมายืนยันว่าไขไม่ได้จริงๆ(ถอดมาเฉพาะเบ้ากุญแจไม่ได้เอามาทั้งประตู)
เมื่อทำการค้าก็ต้องมีกำไร เมื่อมีกำไรก็ต้องมีขาดทุน กุญแจรถยนต์นั้นส่วนใหญ่ ๑ ดอกไขได้
ทั้งคัน ได้แก่ สตาร์ท ประตู ถังน้ำมัน กระโปรงท้าย แต่บางครั้งทำสำเร็จแล้วไขได้จุดเดียว เปิดประตูได้สตาร์ทไม่ได้
พอมาแก้ สตาร์ทได้ เปิดกระโปรงหลังไม่ได้ ทำเสียโยนทิ้งๆ(ถ้าเขี้ยวตื้นไปทำลึกขึ้นได้ ถ้าเขี้ยวลึกไปโยนทิ้งได้เลย)
ผู้เขียนเคยเสียกุญแจรถหัวยางครั้งเดียว ๕ดอก โดยที่ไม่ได้ซักบาท เพราะทำอย่างไรก็ไขไม่ได้ทั้งคัน ถ้าจะให้ลอง
จนใช้ได้อาจเสียกุญแจหมดตู้ ฉะนั้น ไม่แปลกเลยที่เร็วๆนี้ผู้เขียนชั่งเศษกุญแจเสียขายให้พวกรับซื้อของเก่าได้
๕ กิโลกว่าๆเอง
สาเหตุที่ ๒ ที่ไขกุญแจไม่ได้ คือ ช่างกุญแจหยิบกุญแจผิด ดอกกุญแจเกือบทุกชนิดมักออกมา
เป็นคู่ คือแม่พิมพ์ซ้าย แม่พิมพ์ขวา มองผ่านๆอาจเหมือนกัน แต่กรณีนี้ไม่ใช่ไขไม่ออกอย่างเดียว แต่ใส่เข้าไปใน
รูกุญแจไม่ได้ด้วย
เมื่อมีกรณีไขไม่ออก ผู้เขียนจึงติดป้ายหน้าร้านว่า "กุญแจไขไม่ได้ยินดีคืนเงิน"ทีแรกก็ภูมิใจ
ว่าตัวเองเป็นคนมีความรับผิดชอบ คิดไม่ถึงว่าป้ายนี้จะเป็นดาบ ๒ คมมาเล่นผู้เขียนจนเจ็บแสบ(แต่ไม่เข็ด)
เมื่อผู้เขียนซื่อสัตย์ แต่ลูกค้า(บางคน)ขี้โกง แต่ผู้เขียนอยากจะเรียกว่า "ทำซิม" เผื่อมีแฟนๆชาวจีนอ่านอยู่
จะได้เข้าถึงความหมาย ทำซิมแปลว่าอ๊ะไหร่ แปลว่า ละโมบนะสิ
ลูกค้าทำซิมคือลูกค้าที่พยายามโกงผู้เขียนทุกวิถีทางจากช่องว่างที่ผู้เขียนติดป้ายไว้ ขอยกตัวอย่าง
๕ ราย
รายแรก มุขตื้นๆทำกุญแจที่อื่นแล้วไขไม่ได้มามั่วนิ่มว่าทำจากร้านผู้เขียน ขอโทษ-งานนี้ไม่ได้แอ้ม
มันโลภจนหูตาฝ้าฟาง ไม่ได้สังเกตรหัสที่ตอกบนดอกกุญแจมันคนละเบอร์กัน ร้านไหนๆเขาก็ตอกรหัสส่วนตั๊ว-ส่วนตัว
กันทั้งนั้น วู้....
รายที่สอง ถึงจะตอกรหัสแล้ว ลูกค้าก็มีเทคนิคมาแบล็คเมล์เราอยู่ดี (ก็คนมันจะเอา) โดยเอากุญแจของ
เรานั่นแหละมาโกงเรา รายนี้เปิดหอพัก เมื่อมีคนมาเช่าหอเพิ่มก็ต้องทำกุญแจเพิ่ม เมื่อมีคนย้ายออกกุญแจก็เหลือ
เกิดนึกเสียดายก็เลยเอามาบอกผู้เขียนว่าทำไปแล้วไขไม่ได้ ผู้เขียนบอกให้เอาหัวกุญแจมาแก้ เขาก็บ่ายเบี่ยง อยากได้
เงินคืนมากกว่า ทำไปตั้งเป็นชาติ อุตส่าห์รวบรวมมาเคลมตั้งหลายดอก (ไม่รู้หน้าทำด้วยอะไร)
รายที่สาม เป็นคนแก่ (แก่แล้วไม่แก่เลย) ทำลูกกุญแจที่ก๊อปปี้ไปหายอยากได้ดอกใหม่ฟรี ก็เลย
ไปเอาลูกกุญแจของแม่กุญแจตัวอื่น (แต่ทำจากร้านผู้เขียน) มาแอบอ้างว่าทำแล้วไขไม่ได้ แถมเอาแม่กุญแจมายืนยัน
ว่าไขไม่ได้จริงๆผู้เขียนจับดอกกุญแจตัวที่ไขแม่กุญแจตัวนี้ได้เทียบกับดอกกุญแจที่แอบอ้าง เขี้ยวไปคนละทาง ก็เลย
จับโกหกได้ว่า ป้าแกไปเอาดอกกุญแจที่ไม่ใช่ลูกของแม่กุญแจอันนี้มาแอบอ้าง เพราะฉะนั้น ใครคิดจะใช้มุขนี้ขอบอก
ควรมีความรู้ซักนิดจะได้ไม่หน้าแตกเหมือนป้าคนนี้ กุญแจที่เขี้ยวไม่ตรงกันคือลูกคนละแม่ ถ้าเทียบเขี้ยวกับต้นฉบับ
แล้วตรงกันแต่ไขไม่ได้ ช่างถึงจะรับผิดชอบ
รายที่สี่ อายมากไม่อยากเล่าเลยมีกระทาชายหน้าตาผิวพรรณผู้ดีนายหนึ่ง (แล้วเล่าทำไม) มาทำกุญแจ
๓ ดอก อดีตเคยทำกุญแจไปแล้วไขได้แน่นอน ไม่อย่างนั้นคงไม่มาทำอีก แต่คราวนี้กลับมาบอกว่ากุญแจ ๓ ดอก ที่เพิ่ง
ทำไปไขไม่ได้ ผู้เขียนทำดอกใหม่ให้ไปและมานึกได้ตอนเขากลับไปแล้วว่า ลืมเก็บกุญแจที่ไขไม่ได้คืน แต่คงไม่เป็นไร
แต่คงไม่เป็นไร เพราะดูเขามีกะตังค์คงไม่กลับมาแบล็คเมล์เราแน่นอน แต่ถึงจะมา ผู้เขียนก็จำได้ทั้งคนและกุญแจ
ถ้ามาจริงๆจะฉะให้
หนึ่งอาทิตย์ให้หลัง ไอ้หมอนั่นส่งเด็กรุ่นๆเอากุญแจ ๓ ดอกที่ผู้เขียนลืมเก็บกลับ กลับมาแบล็คเมล์
พี่ชายผู้เขียนโดยอ้างว่าไขไม่ได้ และที่เจ็บกว่านั้นมันแถมตัวที่ทำใช้ได้ไปตั้งแต่ปีมะโว้มาอีก ๑ ดอกเป็น ๔ดอก
พอดีผู้เขียนไม่อยู่เด็กคนนั้นอ้างว่าไม่ได้เอาต้นฉบับ (กุญแจ)มา เลยเป็นเหตุให้ผู้เขียนแก้งานให้ไม่ได้ จึงจำเป็นต้อง
คืนเงิน ให้ไปพร้อมกับเก็บกุญแจคืนมา เมื่อผู้เขียนกลับบ้านมาเห็นกุญแจแทบเป็นลม (บอกแล้วว่าจำได้) ทำไมหน้าตาดี
ถึงเลวขนาดนี้ ไอ้....ไอ้....
รายสุดท้าย ก่อนจากกัน ถ้ามันเจตนาก็ถือว่ามันเลวกว่าใครๆ ที่เล่ามาทั้งหมด แต่ถ้ามันไม่เจตนา
(หมายถึงมันก็ไม่รู้)ถือว่าผู้เขียนซวยเอง "มันทำอะไรถึงได้เลวขนาดนั้นน่ะเหรอ มันให้แบงก์ปลอมน่ะสิ"