รวยรวยรวยกับตู้เติมเงินมือถือัจฉริยะ
คุ้มค่า..น่าลงทุน กับ 3TOP ตู้เติมเงินอัจฉริยะ จากจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือกว่า 45 ล้านคนในไทย ส่งผลผลักดันให้ธุรกิจใหม่ๆเกิดขึ้นเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจจำหน่ายโทรศัพท์มือถือและอุปกรณ์เสริมต่างๆ ธุรกิจด้านคอนเทนต์ รวมไปถึงธุรกิจตู้เติมเงินมือถืออัตโนมัติแบบหยอดเหรียญ ซึ่งนับเป็นอีกหนึ่งธุรกิจใหม่ล่าสุดที่กำลังน่าจับตามอง ทำไมถึงมีแนวคิดทำธุรกิจตู้เติมเงินมือถือ เริ่มต้นจากที่โอเปอเตอร์มือถือ ทั้งเอไอเอส ดีแทคและทรูมูฟ ได้เปิดให้บริการเติมเงินระบบพรีเพด โดยใช้แค่โทรศัพท์มือถือก็สามารถเติมค่าโทรได้ โดยไม่ต้องใช้บัตรเติมเงิน ซึ่งค่ายเอไอเอสใช้ชื่อบริการว่า เอ็มเปย์ ส่วนดีแทคใช้ชื่อบริการว่า แฮปปี้ ออนไลน์ และทรูมูฟใช้ชื่อบริการว่า โมบายล์ ทอป อัพ ทั้งสามบริการนี้สามารถใช้บริการได้ทีละระบบ เราจึงต่อยอดบริการเหล่านี้ ด้วยการพัฒนาตู้เติมเงินมือถืออัตโนมัติแบบหยอดเหรียญขึ้นมา โดยลูกค้าสามารถใช้บริการได้ทั้ง 3 ระบบ คือ วัน-ทู-คอล! ,แฮปปี้ ดีแทค และทรูมูฟ ตู้เติมเงินมือถือมีขั้นตอนในการใช้บริการอย่างไร ลูกค้าเพียงกดเลือกระบบ กดเบอร์โทรศัพท์ กดจำนวนเงิน และหยอดเหรียญ ลูกค้าก็สามารถรับค่าโทรได้ภายในเวลา 1 นาที โดยลูกค้าทรูมูฟสามารถเติมเงินได้ตั้งแต่ 10 บาท ส่วนลูกค้า วัน-ทู-คอล! และแฮปปี้ ดีแทค เริ่มต้นที่ 20 บาท ตอนนี้ติดตั้งไปกี่แห่งแล้ว/ที่ใดบ้าง เราติดตั้งทั้งในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัด รวมทั้งหมดประมาณ 100 กว่าแห่ง อาทิ มสว.ประสานมิตร โรงงานพานาโซนิค โรงเรียนวัดไร่ขิง จังนครปฐม โรงเรียนสินสมุทร จังหวัดชลบุรี มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ วิทยาลัยเทคนิค จังหวัดภูเก็ต ตลาดเมืองใหญ่ จังหวัดเชียงใหม่ รวมทั้งติดตั้งตามหน้าร้านมินิมาร์ทและคอนโด เป็นต้น ผู้ประกอบการที่สนใจผลิตภัณฑ์ตู้เติมเงินมือถือต้องงบประมาณในการลงทุนเท่าไร ราคาตู้เติมเงิน ตู้ละ 39,900 บาท พร้อมการเติมเงินเข้าครั้งแรก ระบบละ 1,000 บาท รวม 3 ระบบ 3,000 บาท สำหรับการเติมเงิน สามารถทำได้ 2 วิธี คือ การเติมเงินทาง CALL CENTER และเติมเงินเองทางตู้เอทีเอ็ม หรือ จุดบริการอื่นๆ โดยผู้ประกอบการจะมีรายได้มาจาก 1.ส่วนแบ่งรายได้จากบริษัทแม่ของแต่ละเครือข่าย วัน-ทู-คอล! และแฮปปี้ ดีแทค 3.5% ส่วนทรูมูฟ 8% 2.รายได้จากค่าบริการใช้ตู้เติมเงินครั้งละประมาณ 3 บาท สถานที่เหมาะสำหรับติดตั้งคือที่ใดบ้าง สถาบันการศึกษา ตลาด โรงงาน หน้าร้านมินิมาร์ทและคอนโด มองว่าผู้ประกอบการมีโอกาสสร้างรายได้มากน้อยเพียงใด ปริมาณการสำหรับรายได้และผลกำไร ขึ้นอยู่กับทำเล ยกตัวอย่าง ถ้ามีลูกค้าใช้บริการเพียงวันละ 40-50 คน จะมีรายได้เฉลี่ยประมาณ 300 บาทต่อวัน โดยคาดว่าผู้ประกอบการจะสามารถคืนทุนได้ภายในระยะเวลา 5-6 เดือน จุดเด่นที่แตกต่างจากผู้ให้บริการรายอื่นคืออะไร ผลิตภัณฑ์ของเรามีระบบ Save Protection System คือในกรณีสัญญาณไม่ดี หรือชุมสายไม่ดี ระบบจะย้อนกลับสู่หน้าปกติ โดยไม่ปล่อยให้ถึงขั้นตอนหยอดเหรียญ แต่ถ้าหยอดเหรียญไปแล้ว จะมีระบบคืนเหรียญให้กับลูกค้า ทำให้ลูกค้ามั่นใจในการใช้บริการได้ มองแนวโน้มธุรกิจให้บริการตู้เติมเงินมือถืออย่างไร จากจำนวนผู้ใช้โทรศัพท์มือถือกว่า 30 ล้านคนทั่วประเทศ คาดว่าตลาดนี้จะยังสามารถเติบโตไปได้อีกเป็นจำนวนมาก คุณสมบัติ - เติมเงินมือถือแบบออนไลน์ - สามารถเติมเงินได้ 3 ระบบคือ True Move, Happy และ One-2-Call - สามารถรับเหรียญได้ตั้งแต่ 1,5 และ10 บาท - มีระบบ SAVE PROTECTION SYSTEM คืนเงินเมื่อ ไม่สามารถเติมเงินได้ - ขนาดของตู้ (กว้างx สูงxลึก)=12"x19"x9" - น้ำหนัก 16 กิโลกรัม วิธีการใช้ตู้เติมเงินมือถือ - กดเลือกระบบ กดจำนวนเงิน กดเบอร์โทรศัพท์ หยดเหรียญ รายได้ของผู้ประกอบการ -ส่วนแบ่งจากบริษัทของผู้ให้บริการ คือ True Move 8%,Happy 3.5%,One-2-Call 3.5% ค่าบริการจากการใช้ตู้ - ตั้งได้เองตั้งแต่ 0-9 บาท ตามแต่สถานที่ และความเหมาะสม - แนะนำว่าควรจะตั้งอยู่ที่ค่าบริการครั้งละ 3 บาท จุดค้มทุน - โดยเฉยลูกค้าเติมเงินวันละ50 รายๆ ละ 50 บาท ราบได้วันละ 250-300บาท เดือนละ 9,000บาท 5-6-เดือน คืนทุน การคิดรายได้ 1. ค่าบริการใช้ตู้ 3 บาทต่อครั้งx50 = 150 บาท 2. ส่วนแบ่งเป็นเปอร์เซนจากบริษัทผู้ให้บริการ เฉลี่ย = 100 บาท 3. ส่วนเกินจากการหยดเหรียญ = 50 บาท 350 บาท ทำเลที่น่าสนใจ - หน้าโรงเรียน วิทยาลัย และมหาวิทยาลัย - หน้าโรงงานอุตสาหรรม หรือนิคมอุสาหกรรม - หน้าตลาดหรือแหล่งชุมชน แนวโนมในอนาคต - จากฐานข้อมูลลูกค้าที่ใช้โทรศัพท์มือถือในระบบเติมเงินกว่า 30 ล้านคน
ราคา: | 39,900 | ต้องการ: | ขาย |
ติดต่อ: | เค้ก | อีเมล์: | |
โทรศัพย์: | 0817665614 | IP Address: | 125.24.114.253 |
มือถือ: | 0817665614 | จังหวัด: | นราธิวาส |