พระเก่าสมเด็จปี 16 และปี 135 วัดเจ้าอาม เข้มขลังศักดิ์สิทธิ์ มอบแก่ผุ้ร่วมทำบุญซื้อที่ดินถวายวัดเป็นธรณีสงฆ์

เปิดกรุพระเก่า “สมเด็จปี 16 และปี 35” วัดเจ้าอาม พุทธานุภาพศักดิ์สิทธิ์ ไม่มีอีกแล้ว มอบแก่ผู้ทำบุญบริจาคซื้อที่ดินถวายวัด พระสมเด็จนับเป็นสุดยอดพระเครื่องที่ได้รับความนิยมสูงสุดสำหรับไว้สักการบูชาของนักสะสม แต่ด้วยปัจจัยด้านราคาบูชาที่ค่อนข้างสูงตั้งแต่หลักแสนถึงหลักล้านจนเอื้อมไม่ถึง ก็มีผู้คนไม่น้อยหันมาเก็บบูชาพระสมเด็จยุคหลังที่ราคาเบา แต่พุทธคุณสูงไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน  
อย่างเช่น “พระสมเด็จ” ปี  2516 และปี 2535  ของวัดเจ้าอาม เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ ที่ได้นำออกมาจากเก็บไว้ใต้กรุหลังคาพระอุโบสถ และพระวิหาร  ซึ่งได้รับกล่าวขานว่าเป็นพระเครื่องที่มีพุทธานุภาพศักดิ์สิทธิ์ทั้งด้านเมตตามหานิยม และคงกระพันชาตรี โดยเฉพาะมีชื่อเสียงเกรียงไกรทางอภินิหารแคล้วคลาดอันตราย เพื่อมอบให้แก่ผู้ที่ร่วมทำบุญบริจาคซื้อที่ดินถวายวัด เป็นสิริมงคลแก่ตัวเองและครอบครัว    เนื่องจากปัจจุบันวัดมีพื้นที่คับแคบไม่เพียงพอกับการใช้งานให้บริการแก่ประชาชนทั้งด้านกิจกรรมพุทธศาสนาและสังคมสงเคราะห์ ดังนั้นจึงจำเป็นต้องซื้อที่ดินขยายวัด จำนวน 813 ตารางวา ราคาตารางวาละ 30,000 บาท รวมเป็นเงิน 24 ล้านบาท แต่วัดยังขาดทุนทรัพย์จำนวนมากในการซื้อที่ดินดังกล่าว ทั้งนี้ทางวัดมีโครงการจะนำที่ดินที่ดังกล่าวมาพัฒนาให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อพระพุทธศาสนาและสังคมโดยรวม อาทิ  เป็นสถานที่จัดกิจกรรมต่างๆ เพื่อเป็นศูนย์เผยแพร่พุทธศาสนาระหว่างวัดกับชุมชน ได้แก่  วิปัสสนา  การอบรมศาสนาแก่เยาวชน, สถานบริการห้องสมุดประชาชน และสถานที่จอดรถ เป็นต้น  วัตถุมงคลเก่าเก็บประกอบด้วย พระสมเด็จเนื้อเกสร ปี 16,  พระสมเด็จทิพย์มงคล ปี 35 ผสมไม้ช่อฟ้าวัดระฆัง และพระสม0เด็จแกะจากไม้ช่อฟ้าวัดระฆัง ปี 35  โดยพระครูนิวิฐสาธุวัตร หรือหลวงพ่อทองล่ำ พระเกจิอาจารย์เมตตามหานิยม เจ้าอาวาสวัดเจ้าอาม เป็นผู้จัดสร้างขึ้นเองที่วัด ซึ่งได้รับสูตรการสร้างตามตำรับสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) มาจากหลวงปู่หิน อดีตเจ้าคณะ 13 วัดระฆังโฆสิตาราม เมื่อปี 2508               พระสมเด็จเนื้อเกสร ปี 2516 เดิมสร้างเมื่อปี 2512 เพื่อนำไปแจกทหารเที่ไปรบในสงครามเวียดนาม ต่อมาในปี 2516 ได้มีการทำเพิ่มเพื่อนำไปแจกทหารและตำรวจทั่วไป และบรรจุในพระปรางค์ใหญ่เก่าแก่ที่วัดเจ้าอามเพื่อสืบทอดพระพุทธศาสนา  โดยจอมพลประภาส จารุเสถียร สมัยดำรงตำแหน่งเป็นรองนายกรัฐมนตรี และรมต.มหาดไทย และ พลเอกทวนชัย โกศินานนท์ อดีตปลัดกระทรวงกลาโหม ร่วมกันเป็นประธานจัดสร้าง    พระชุดนี้ใช้มวลสารผงเกสร 108  ว่าน 108 ผงอิทธิเจ และของขลังศักดิ์สิทธิ์สถานที่ต่างๆ รวมทั้งได้รับผงพุทธคุณจากหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี, หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณมิตร และหลวงพ่อแกร วัดส้มเสี้ยว นครสวรรค์ นำมาเป็นส่วนผสมในการจัดสร้างทั้งหมด 2 พิมพ์ คือ พิมพ์ 3 ชั้น เนื้อขาว เนื้อลาย  และพิมพ์ 9 ชั้น เนื้อลาย ได้ทำพิธีมหาพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดเจ้าอาม เมื่อวันที่ 12 มีนาคม 2516 มีพระเถราจารย์ชื่อดังยุคเก่าที่มีพุทธาคมที่เข้มขลัง จากทั่วประเทศมาร่วมนั่งปรกอธิษฐานจิตปลุกเสก ได้แก่ หลวงพ่อสุข วัดราชนัดดา,  หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี. หลวงพ่อพันธ์ วัดอินทราราม, หลวงพ่อฑูรย์ วัดโพธิ์นิมิต, หลวงพ่อสว่าง วัดคฤหบดีสงฆ์ (วัดท่าพุทรา) กำแพงเพชร, หลวงพ่อถิร วัดป่าเลไลยก์, หลวงพ่อมุ่ย วัดดอนไร่, หลวงพ่อนอ วัดกลางท่าเรือ, หลวงพ่อเทียม วัดกษัตราธิราช, หลวงพ่อแกร วัดส้มเสี้ยว, หลวงพ่อเส่ง วัดกัลยาณมิตร,  หลวงพ่อเส่ง วัดน้อยนางหงส์, หลวงพ่อทองอยู่ วัดหนองพระอง, หลวงพ่อรัตน์ วัดบางบำหรุ, หลวงพ่อหวล วัดพิกุล, หลวงพ่อช่วง วัดจำปา, หลวงพ่อผ่องจินดา วัดจักรวรรดิ์ราชาวาส, หลวงพ่อแสน วัดท่าแหน ลำปาง และหลวงพ่อสาโรจน์ วัดใหม่ทองเสน   พระสมเด็จเนื้อเกสรปี 2516 วัดเจ้าอาม เป็นวัตถุมงคลที่มีพุทธคุณทางด้านเมตตามหานิยม รวมทั้งแคล้วคลาดและคงกระพันชาตรี มีประสบการณ์สูงมาก เนื่องจากได้นำไปแจกให้แก่ทหารหลังจากปลุกเสกแล้ว  และมีชื่อเสียงโด่งดังมากในจังหวัดราชบุรีและเพชรบุรี   อีกรุ่นคือ พระสมเด็จทิพย์มงคล เนื้อผงผสมมวลสารไม้ช่อฟ้าวัดระฆัง จัดสร้างไว้เมื่อปี 2535 เพื่อหาทุนในการจัดสร้างกุฏิสงฆ์และโรงเรียนปริยัติธรรมของวัดเจ้าอาม    พระสมเด็จทิพย์มงคล นับเป็นพระสมเด็จเพียงรุ่นเดียวที่นำไม้ช่อฟ้าเก่าพระอุโบสถวัดระฆังโฆสิตาราม สมัยสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) มีอายุ 200 กว่าปีมาแล้ว นำมาเป็นมวลสารศักดิ์สิทธิ์ในการจัดสร้าง หาไม่ได้อีกแล้ว ซึ่งได้รับมอบมาจากพระเทพญาณเวที (หลวงพ่อละมูล) อดีตเจ้าอาวาสวัดระฆัง เมื่อปี 2518  ไม้ช่อฟ้าเก่าพระอุโบสถที่วัดระฆังฯไม่มีแล้ว  เหลือเพียงนำมาจัดสร้างวัตถุมงคลที่วัดเจ้าอามแห่งเดียวเท่านั้น ปัจจุบันช่อฟ้าพระอุโบสถวัดระฆังได้เปลี่ยนเป็นปูนปิดทองปิดกระจกแทนไม้ช่อฟ้าเดิมที่หักชำรุด เนื่องจากมีอายุเก่าแก่มานานแล้ว              พระครูนิวิฐสาธุวัตร เจ้าอาวาสวัดเจ้าอาม   เมื่อปี 2518 ได้ไปร่วมประชุมพระสังฆาธิการในเขตบางกอกน้อย โรงเรียนพระปริยัติธรรมของวัดระฆังโฆสิตาราม ในวันนั้นเกิดฝนตกลงมาอย่างหนัก มีพายุแรง ทำให้ไม้ช่อฟ้าเก่าพระอุโบสถวัดระฆังที่ผุได้หักลงมา พระครูนิวิฐสาธุวัตร จึงได้ขอกับท่านพระเดชพระคุณหลวงพ่อละมูล หลวงพ่อได้ถามว่า จะเอาไปทำอะไร พระครูนิวิฐสาธุวัตรบอกว่า จะนำไปสร้างวัตถุมงคลของวัดเจ้าอาม เนื่องจากเห็นว่า ไม้ช่อฟ้านี้เป็นของเก่าแก่ศักดิ์สิทธิ์สมัยเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์ (โต พรหมรังสี) หาไม่ได้อีกแล้ว เพราะในพระอุโบสถของวัดระฆังนั้นได้ทำพุทธาภิเษกนับไม่ถ้วน  นอกจากนี้ยังมีมวลสารศักดิ์สิทธิ์จากพระเกจิอาจารย์ชื่อดังอีกมากมาย อาทิ อาทิ  สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์  (หลวงพ่อช่วง)  เจ้าอาวาสวัดปากน้ำ, หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี, หลวงพ่อเกษม สำนักสุสานไตรลักษณ์ จ.ลำปาง และหลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง  เป็นต้น พระสมเด็จทิพย์มงคล จัดสร้างไว้ทั้งหมด 6 พิมพ์ คือ พิมพ์พิเศษ (พระประธาน) พิมพ์ฐานสิงห์ พิมพ์เจดีย์  พิมพ์ฐานหมอน พิมพ์ขัดสมาธิเพ็ชร และพิมพ์คะแนน   และสุดท้ายคือ พระสมเด็จแกะจากไม้ช้อฟ้าวัดระฆัง  นับเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวในประวัติศาสตร์การจัดสร้างพระสมเด็จของเมืองไทย ทื่แกะสลักลงบนเนื้อไม้ช่อฟ้าเก่าพระอุโบสถวัดระฆังโฆสิตาราม สมัยสมด็จพระพุฒาจารย์  (โต พรหมรังสี) ของสูงศักดิ์สิทธิ์ที่สร้างมาคู่กับพระอุโบสถสมัยเก่าแก่ที่สร้างวัดมาครั้งแรก จัดสร้างเมื่อปี 2535 โดยประติมากรที่มีความชำนาญแกะด้วยมืออย่างประณีต เพื่อให้เป็นพระสมเด็จที่มีความงดงามทรงคุณค่าที่วงการพระเครื่องต้องจารึกไว้    พระสมเด็จทิพย์มงคล ผสมไม้ช่อฟ้าวัดระฆัง และพระสมเด็จแกะจากไม้ข้อฟ้าวัดระฆัง ได้ประกอบพิธีมหาพุทธาภิเษก ณ พระอุโบสถวัดเจ้าอาม เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2535 โดยได้รับเมตตาจากสมเด็จพระญาณสังวร สมด็จพระสังฆราช สกลมหาสังฆปริณายก ทรงเป็นประธานจุดเทียนชัย และสมเด็จพระพุฒาจารย์ (เกี่ยว) วัดสระเกศ เป็นประธานดับเทียนชัย  มีพระเกจิอาจารย์ดังทั่วประเทศ จำนวน 69 รุป  ร่วมนั่งปรกอธิษฐานจิตปลุกเสก อาทิ สมเด็จพระมหาธีราจารย์ วัดชนะสงคราม, สมเด็จพระมหารัชมังคลาจารย์  (หลวงพ่อช่วง) วัดปากน้ำ, หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง,   หลวงพ่ออุตตมะ วัดวังก์วิเวกการาม,  หลวงพ่อเปิ่น วัดบางพระ, หลวงพ่อพูน วัดบ้านแพน,  หลวงพ่อผัน วัดระฆังฯ,  เจ้าคุณเที่ยง วัดระฆังฯ, หลวงพ่อฤาษีลิงขาว วัดฤกษ์บุญมี,  หลวงพ่อสำราญ วัดปากคลองมะขามเฒ่า, หลวงพ่อหยอด วัดแก้วเจริญ,หลวงละมูล วัดเสด็จ, หลวงพ่อทองใบ วัดสายไหม, หลวงพ่อยิด วัดหนองจอก,หลวงพ่อเมี้ยน วัดโพธิ์กบเจา, หลวงพ่อเชิญ วัดโคกทอง, หลวงพ่อบุญมา วัดเบญจมบพิตร, หลวงพ่อสุพจน์ วัดสุทัศน์เทพวราราม, และหลวงพ่อทองล่ำ วัดเจ้าอาม เป็นต้น สำหรับรายละเอียดการมอบวัตถุมงคล มีดังนี้ ผู้ที่ร่วมทำบุญซื้อที่ดิน 100 บาท จะได้รับมอบพระสมเด็จทิพย์มงคลปี 35 พิมพ์คะแนน 1 องค์, ทำบุญ 300 บาท รับมอบพิมพ์ฐานสิงห์ หรือพิมพ์เจดีย์ หรือพิมพ์ฐานหมอน หรือพิมพ์ขัดสมาธิเพชร  1 องค์, และทำบุญ 500 บาท รับมอบพิมพ์พิเศษ (พระประธาน) 1 องค์    ทำบุญ 1,000 บาท รับมอบพระสมเด็จเนื้อเกสร ปี16 ลองพิมพ์ 3 ชั้น เนื้อขาว 1 องค์,  ทำบุญ 3,000 บาท รับพระสมเด็จ  ปี 16 พิมพ์ 3 ชั้น เนื้อขาว, ทำบุญ 5,000 บาทรับมอบพระสมเด็จปี 16 3 ชั้น เนื้อลาย หรือพิมพ์ 9 ชั้น เนื้อลาย และทำบุญซื้อที่ดิน 1 ตารางวา จะได้รับพระสมเด็จแกะจากไม้ช่อฟ้าวัดระฆัง จำนวน 1 องค์ ใส่กรอบสวยหรู  พร้อมพระสมเด็จเนื้อเกสร ปี 16 จำนวน 1 องค์ และพระสมเด็จทิพย์มงคล ปี 35 พิมพ์พิเศษ อีก 1 องค์ อนึ่งวัดเจ้าอามเป็นวัดเก่าแก่ในสมัยกรุงธนบุรี โดยสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชทรงสร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ. 2322 เพื่ออุทิศให้กับพระสนมเอกซึ่งมีนามว่า “อาม” หรือ “เจ้าอาม” พร้อมกับสร้างพระปรางค์ใหญ่ขึ้นเป็นที่บรรจุอัฐิของพระสนมอาม ต่อมาได้มีการอัญเชิญพระบรมสารีริกธาตุจากเชียงใหม่มาประดิษฐานไว้ที่ส่วนยอดของพระปรางค์อยู่ทุกวันนี้                                                                                            

ผู้สนใจร่วมทำบุญได้ทุกวัน ที่วัดเจ้าอาม ถนนบางกอกน้อย- ตลิ่งชัน ใกล้กรมบังคับคดี แขวงบางขุนนนท์ เขตบางกอกน้อย กรุงเทพฯ สอบถามรายละเอียดที่  พระครูนิวิฐสาธุวัตร เจ้าอาวาส โทร. 0-2424-0363, 08-9786-6678 และ http://www.watchaoam.org/">www.watchaoam.org หรือธนาณัติสั่งจ่าย ปณ.บางขุนนนท์ ในนามวัดเจ้าอาม (เพิ่มค่าจัดส่งพระ 5 0 บาท)