น้ำมังคุดเพื่อสุขภาพ
ประเทศไทยนับว่าเป็นประเทศที่มีความหลากหลายทางชีวภาพแห่งหนึ่งของโลก นอกจากพื้นที่ที่อุดมไปด้วยทรัพยากรทางธรรมชาติ และสถานที่ท่องเที่ยวมากมายแล้ว ยังมีผักและผลไม้ที่มีชื่อเสียงไปทั่วโลกอีกด้วย ไม่ว่าจะเป็น ทุเรียน เงาะ มังคุด ฯลฯ ในบรรดาผลไม้ทั้งหมด “มังคุด” ได้รับการยกย่องให้เป็น “ราชินีแห่งผลไม้” (Queen of fruits) ด้วยลักษณะเฉพาะของผลมังคุดที่มีกลีบเลี้ยงอยู่ที่หัวขั้วของผล คล้ายมงกุฏของราชินี เนื้อด้านในมีสีขาวนวล รสชาติหวานอมเปรี้ยวอร่อยอย่างยากที่จะมีผลไม้ชนิดใดในโลกเทียบเคียงได้มังคุด (Mangosteen) มีชื่อทางวิทยาศาสตร์คือ Garcinia mangostana Linn. จัดอยู่ในวงศ์ Guttiferae มังคุดเจริญเติบโตได้ในดินเกือบทุกชนิด แต่ดินที่เหมาะสมควรเป็นดินเหนียวปนทราย ที่มีความอุดมสมบูรณ์สูงสามารถอุ้มน้ำและระบายน้ำได้ดี พื้นที่ที่เหมาะสมต่อการปลูกมังคุดควรมีสภาพภูมิอากาศร้อนและชุ่มชื้น คือ มีอุณหภูมิอยู่ในช่วง 25-30 องศาเซลเซียสและมีฝนตกชุกสม่ำเสมอ มังคุดจึงปลูกมากทางภาคใต้ของประเทศไทย
เปลือกมังคุด (pericarp)
ด้วยเทคโนโลยีที่เจริญก้าวหน้าในปัจจุบัน กระบวนการทางวิทยาศาสตร์สามารถทำการศึกษาถึงประโยชน์จากสารสำคัญที่มีอยู่ในเปลือกมังคุด คือ แทนนินและแซนโทน สารแซนโทนมีฤทธิ์เป็นสารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidants) จึงมีการศึกษามากมายที่ชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ของสารแซนโทนที่มีในเปลือกมังคุด แซนโทนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่แรง (potent antioxidants) พบได้มากในเปลือกมังคุด และมีผลของการศึกษาฤทธิ์ในการจับอนุมูลอิสระโดยวิธี ORAC (Oxygen Radical Absorbance Capacity) Brunswick Laboratories ทำการเปรียบเทียบระหว่างน้ำผลไม้อื่นๆและมังคุด พบว่า มังคุดมีฤทธิ์ในการจับอนุมูลอิสระมากกว่า แครอท ราสเบอรรี่ บลูเบอรรี่ ทับทิม อนุมูลอิสระ (free radicals) เป็นโมเลกุลที่เกิดขึ้นจากกระบวนการลูกโซ่ (chain reaction) ของปฎิกิริยาออกซิเดชัน (oxidation) ที่เกิดขึ้นภายในร่างกาย ดังนั้นร่างกายจึงต้องหาทางป้องกันการโดนทำลายจากอนุมูลอิสระ โดยสิ่งที่ร่างกายสร้างขึ้นเพื่อป้องกันตนเอง คือระบบแอนติออกซิแดนท์ (antioxidants) อย่างไรก็ตามภาวะที่ปริมาณอนุมูลอิสระมีมากเกินกว่าระบบแอนติออกซิแดนท์จะจัดการได้ จะเกิดภาวะเครียดขึ้น (oxidative stress) ก่อให้เกิดผลเสียต่อเซลล์ และการทำลายเซลล์ ซึ่งเป็นสาเหตุ ของการแก่ (aging) และรุนแรงไปถึงการเกิดโรคภัยไข้เจ็บต่างๆ เช่นการกระตุ้นให้เกิดไขมันสะสมในหลอดเลือดนำไปสู่ภาวะเส้นเลือดตีบ โรคเกี่ยวกับภูมิคุ้มกัน(autoimmune disease) รวมไปถึงโรคมะเร็ง (cancer) เป็นต้น
สารต้านอนุมูลอิสระ (antioxidants) ทำลายฤทธิ์ของอนุมูลอิสระโดยป้องกันการเกิดปฏิกิริยาออกซิเดชันในส่วนต่างๆ ของร่างกาย นอกจากร่างกายสามารถสร้างสารต้านอนุมูลอิสระได้เองตามที่กล่าวข้างต้นแล้ว ในวิตามิน แร่ธาตุ และสารจากผักและผลไม้ก็พบสารต้านอนุมูลอิสระอยู่ด้วย แซนโทนเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่แรง (potent antioxidants) พบได้มากในเปลือกมังคุด ปัจจุบันมีการศึกษาถึงประโยชน์ของสารแซนโทนจากเปลือกมังคุดในเรื่องต่างๆดังนี้
ผลจากฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระของสารแซนโทน จึงป้องกันการเกิดออกซิเดชันของLDL ซึ่งเป็นคลอเลสเตอรอลตัวร้าย จึงช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดหัวใจ (cardiovascular disease) ภาวะไขมันอุดตันหลอดเลือดหัวใจ
อีกทั้งยังลดการทำลายเซลล์ อันเป็นผลจากปฏิกิริยาลูกโซ่ จึงช่วยลดความเสี่ยงและชะลอการแก่ (aging) ด้วย ผลต่อการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งต่างๆรวมถึงการตายของเซลล์มะเร็งในการศึกษาระดับห้องปฎิบัติการ เช่น เซลล์มะเร็งเต้านม, เซลล์มะเร็งเม็ดเลือดขาว , เซลล์มะเร็งตับ, กระเพาะอาหาร และเซลล์มะเร็งปอด
การกลายพันธุ์ของเซลมะเร็ง
- ผลดีต่อระบบภูมิคุ้มกัน และยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อราและแบคทีเรียบางชนิด เช่น เชื้อวัณโรค (Mycobacterium tuberculosis) , เชื้อ S. Enteritidis และเชื้อ HIV
- ฤทธิ์ในการช่วยขยายตัวของหลอดเลือด (vasorelaxing activities) ดังนั้นจึงมีประโยชน์ในการลดความดันโลหิต (antihypertensive)
- การยับยั้งการหลั่งสารฮิสตามีน (histamine) ฤทธิ์ต้านซิโรโทนิน ซึ่งเป็นส่วนสำคัญในการป้องกันโรคภูมิแพ้ (allergies) การยับยั้งการสังเคราะห์สารพลอสตา แกลนดินอีทู (PGE2) ซึ่งเป็นสาเหตุของการ เกิดกระบวนการอักเสบต่างๆ เช่น การปวดอักเสบ กล้ามเนื้อ และข้อสารแซนโทนสามารถทำให้ปริมาณน้ำตาลใน กระแสเลือดของผู้ที่เป็นเบาหวานชนิดที่ ลดลง ซึ่งอาจจะเป็นกลไกที่แซนโทนทำให้การทำงานของอินซูลินดีขึ้น จึงสามารถนำน้ำตาลเข้าสู่เซลล์ได้เร็วขึ้น การอักเสบของส่วนต่างๆ แผลภาวะแทรกซ้อนจากเบาหวาน
มังคุดจึงไม่ใช่เพียงผลไม้ที่มีรสชาติอร่อยแต่ยังมีคุณประโยชน์ต่อร่างกาย ทั้งคุณค่าทางโภชนาการและการนำมาใช้เป็นยารักษาโรคได้อีกด้วย “มังคุด” จึงเป็นของขวัญล้ำค่าที่ธรรมชาติได้มอบให้กับมวลมนุษยชาติอย่างแท้จริง
เหตุผล 33 ประการ ที่ควรพิจารณาใช้สารสกัดจากมังคุด
- ต้านอาการเมื่อยล้า (เพิ่มพลังอาหาร) ป้องกันการระคายเคือง อักเสบ ลดการเจ็บปวด ต้านการเกิดแผลในปาก
- ระงับอาการกดประสาท (ลดความเครียด) ลดอาการกังวล ลดภาวะสมองเสี่อม ช่วยป้องกันความผิดปกติของสมอง
- ป้องกันการเกิดเนื้องอกและมะเร็ง ชะลอความชรา ต้านอนุมูลอิสระ
- ต้านเชื้อไวรัส ต้านเชื้อแบคทีเรีย ต้านเชื้อรา ป้องกันโรคภูมิแพ้ เพิ่มภูมิคุ้มกันโรค
- ต้านการขับไขมันจากต่อมไขมันใต้ผิวหนังมากเกินไป (ต้านการทำงานของผิวหนังผิดปกติ)
- ลดไขมันที่ไม่ดีในเส้นเลือด (ลด L.D.L.) ป้องกันเส้นเลือดแดงแข็งตัว
- ป้องกันโรคหัวใจ ป้องกันความดันต่ำ ป้องกันอาการน้ำตาลในเลือดต่ำ ป้องกันโรคอ้วน (ช่วยลดน้ำหนัก)
- ป้องกันโรคข้อเสื่อม ป้องกันโรคกระดูกผุ
- ป้องกันการเกิดโรคนิ่วในไต
- ป้องกันอาการไข้ (ไข้ระดับต่ำ)
- ป้องกันโรคพาร์กินสัน (โรคเกี่ยวกับระบบประสาทที่ทำให้สั่น)
- ป้องกันอาการท้องร่วง
- ป้องกันอาการปวดในระบบประสาท ป้องกันอาการเวียนศรีษะ ป้องกันโรคต้อหิน (โรคตาที่เกิดจากความดันสูงในกระบอกตาและทำให้ ตาบอดในที่สุด)
- ป้องกันอาการตามัว (เกิดความผิดปกติที่เลนส์ในดวงตา)
- ป้องกันโรคเหงือก ใช้สารสกัดจากมังคุดเลียนกลไกในร่างกายทำลายเซลล์มะเร็ง โดย หนังสือพิมพ์ผู้จัดการ รศ.ดร.รมิดา วัฒนโภคาสิน นักวิจัยหญิงไทยศึกษาฤทธิ์ต้านมะเร็งจากมังคุดด้วยการเหนี่ยวนำให้เซลล์มะเร็งมีการตายคล้ายในกลไกของร่างกายซึ่งไม่ทำให้เซลล์และเนื้อเยื่อรอบข้างเสียหาย ผลจากการศึกษาที่มีประโยชน์ส่งให้ได้รางวัล “สตรีในวิทย์” จากลอรีอัลและยูเนสโก การต่อสู้กับโรคมะเร็งที่คร่าชีวิตประชากรโลกจำนวนมากและมากเรื่อยๆ ดูจะมีเส้นทางอีกยาวไกล แต่นักวิจัยก็ไม่เคยยอมแพ้ที่จะค้นคว้าทุกวิถีทางมาต่อสู้และป้องกันกับโรคร้ายนี้ นักวิจัยหญิงไทย รศ.ดร.รมิดา วัฒนโภคาสิน จากภาควิชาเคมี คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร เป็นอีกคนที่ต่อสู้อยู่บนหนทางดังกล่าว เธอเป็นนักวิจัยที่หาหนทางรักษาโรคมะเร็งด้วยการนำสารสกัดจากมังคุดมาทดสอบฤทธิ์ของสารธรรมชาติเหล่านี้ว่าสามารถจัดการกับเซลล์มะเร็งได้ดีแค่ไหน ดังนั้น รศ.ดร.รมิดาจึงเลือกที่จะนำสารสกัดจากสมุนไพรโดยสารสกัดจากเปลือกมังคุดมาทดสอบฤทธิ์ในการฆ่าเซลล์มะเร็งด้วยการเหนี่ยวนำให้เซลล์เกิดการตายแบบอะพอโตซิส ทั้งนี้ผลจากการทดลองที่วัดด้วยค่า IC50 ซึ่งเป็นค่าบอกความเข้มข้นที่สามารถฆ่าเซลล์มะเร็งได้ครึ่งหนึ่งนั้นแสดงให้เห็นว่ามังคุดมีฤทธิ์ในการทำลายเซลล์มะเร็งได้ดี คือประมาณ 4 มิลลิกรัมก็สามารถทำลายเซลล์มะเร็งได้ถึงครึ่งของเซลล์มะเร็งทั้งหมด และผลจากการทดลองยังบอกอีกว่าสารสกัดจากมังคุดนั้นเหมาะแก่การทำลายเซลล์มะเร็งลำไส้และเซลล์มะเร็งตับโอทอป เน็ตเวิร์ค ได้คัดสรรผลิตภัณฑ์ เราทุ่มเทความสามารถทั้งหมดที่มีเพื่อค้นหาวิธีนำคุณค่าจากธรรมชาติ มาสู่ผลิตภัณฑ์ที่ดีที่สุด โอทอป เน็ตเวิร์ค ได้ผลิตน้ำมังคุดแซนสยาม (XanSIAM) โดยโรงงานที่มีมาตรฐานGMP(Good Manufacturing and Practice) การใช้วิทยาการที่ทันสมัยที่สุด ผนวกกับภูมิปัญญาท้องถิ่นที่มีมานานนับศตวรรษ แปรเปลี่ยนผลมังคุดทั้งลูกให้เป็นน้ำมังคุดแซนสยาม (XanSIAM) ที่ยังคงความสดชื่นจากเนื้อมังคุดสด และคุณค่ามหัศจรรย์ของสารแซนโทนจากธรรมชาติที่มีอยู่ในเปลือกมังคุด Free From Pesticide สะอาด ปลอดภัยจากสารเคมี เลือกสรรเฉพาะผลมังคุดสดๆจากสวนที่ปลูกด้วยมาตรฐานการปลูกแบบ GAP ซึ่งย่อมา จาก Good Agricultural Practice ซึ่งเป็นมาตรฐานการเพาะปลูกที่ได้รับการยอมรับกันแล้วทั่วโลกว่ามีความปลอดภัย ได้ผลผลิตที่ปลอดสารพิษ จะถูกเด็ดจากต้นและลำเลียงอย่างทะนุถนอมมายัง โรงงานเพื่อเข้าสู่กระบวนการผลิตโดยใช้ระยะเวลาที่สั้นที่สุด เพื่อให้สามารถคงทุกคุณค่าของ ผลมังคุดสดตามธรรมชาติ Fix Standardized Methodology มาตรฐานที่ทั่วโลกยอมรับด้วยขั้นตอนการผลิตที่ทันสมัยและทีมวิจัย อันประกอบไปด้วยนักโภชนาการอาหาร นักวิศวกรรมอาหาร และเภสัชกรในทุกขั้นตอนของการผลิตจึงมีการควบคุมคุณภาพการผลิตอย่างใกล้ชิดเพื่อรับประกันคุณภาพของผลิตภัณฑ์ทุกขวดว่าจะคงคุณค่าของสารแซนโทนจากธรรมชาติในปริมาณที่เหมาะสม เรามีห้องปฏิบัติการทางเคมีอันทันสมัยและเพื่อให้เป็นไปตามมมาตรฐานการผลิตที่ได้วางไว้ เจ้าหน้าที่ประจำห้องแลปจะทำการตรวจเช็คหาค่าของสารแซนโทนตามธรรมชาติในทุกกระบวนการผลิตที่สำคัญ และเรายืนยันได้ว่ามีห้องปฏิบัติการเพียงไม่กี่แห่งเท่านั้นในประเทศไทยที่จะมีความสามารถในการตรวจสอบหาค่าปริมาณของสารแซนโทนจากธรรมชาติในผลิตภัณฑ์ การใช้เทคนิคการผลิตด้วยผลมังคุดทั้งผล คือเปลือก,เนื้อและเมล็ดของมังคุด เรียกว่า Whole-Fruit Technique (โฮลว์ฟรุท เทคนิค)ซึ่งเป็นเทคนิคการผลิตที่มีความซับซ้อน และยากที่จะสามารถทำให้ได้น้ำมังคุดที่มีรสชาติดี เพราะสารประกอบต่างๆที่มีในเปลือกมังคุดจะมีรสชาติที่ฝาดและขมมาก ความท้าทายนี้ทำให้เราต้องคิดค้นเทคนิคการผลิตพิเศษ ที่สามารถรักษารสชาติที่แสนจะหอมหวานกลมกล่อมของเนื้อมังคุดสดตามธรรมชาติ จนกระทั่งวันนี้ที่เราสามารถยืนยันได้ว่า น้ำมังคุดแซนสยาม (XanSiam) ทุกหยด ยังคงความสดชื่นจากเนื้อมังคุดสด มีรสชาติที่ดีที่สุดและคุณค่าเต็มประสิทธิภาพของ แซนโทน สารประกอบมหัศจรรย์จากธรรมชาติครบถ้วนทุกประการ
ราคา: | 450 บาท | ต้องการ: | ขาย |
ติดต่อ: | เพชรเจ้าพระยา | อีเมล์: | |
โทรศัพย์: | 0806008991 | IP Address: | 222.123.207.175 |
มือถือ: | 0874472228 | จังหวัด: | เชียงราย |