เล่าประสบการณ์ และ แนะนำ หมอแมะ ใจดี มีคุณธรรมค่ะ ( แพทย์ทางเลือก รักษาด้วยยาแผนโบราณ สมุนไพร ไทย จีน )

เล่าประสบการณ์ และ แนะนำ หมอแมะ ใจดี มีคุณธรรมค่ะ ( แพทย์ทางเลือก รักษาด้วยยาแผนโบราณ สมุนไพร ไทย จีน ) เขียนมาจากความคิดเห็น รู้สึกส่วนตัวล้วนๆ บวกกับหลักการตามที่ศึกษามาบ้าง ควรใช้วิจารณญานด้วยค่ะ เรื่องมีอยู่ว่า เมื่อหลายเดือนก่อน เรากับแฟนได้ไปเดินเที่ยวงานแฟร์ที่เมืองทองธานี เลยไปเจอร้านแพทย์แผนไทยร้านนึงเปิดบูทอยู่ที่นั่น ร้านก็ธรรมดามีสมุนไพรต่างๆเรียงรายหน้าร้าน ด้านในมีโต๊ะเก้าอี้อลูมิเนียมอยู่ 2 ชุด มีหมอกำลังตรวจอยู่ หมอเด็กบ้าง แก่บ้าง และมีป้ายแปะว่าตรวจรักษาโรคฟรี โดยหมอแมะ เราก็ป้วนเปี้ยนอยู่สักพัก หยิบกระปุกยามาอ่านดูบ้าง กะจะดูพวกบำรุงร่างกายทั่วไป สักพักมีผู้ชายอายุประมาณ 60 กว่า ปี ท่าทางใจดีคนนึง (หมอแมะ) มาถามว่า หนูมาซื้อยาเหรอ เคยตรวจโรครึยังละ ตรวจก่อนมั้ย  เราก็โอเคเลยเข้าทางเราเพราะอยากลองตรวจโรคกับหมอแมะมานานแล้ว ได้ยินกิตติศัพท์มานาน เลยจะเข้าไปในร้าน แต่หมอบอกยื่นแขนมาสิ เราก็งงๆเพราะนี่กำลังยืนอยู่ แต่ก็ยื่น หมอก็จับชีพจรที่ข้อมือทำหน้าคิดๆ แล้วก็จับอีกข้าง มองหน้าเราแลัวก็บอกไหนแลบลิ้นซิ เราก็ไม่กล้าแลบอายคนเค้า เค้าก็บอกแลบเถอะน่า เราก็แลบลิ้นจนได้ คิดในใจเหมือนแดจังกึมเลยวุ้ย ใช้เวลาไม่เกิน 3 นาที เค้าเลยบอกเลยว่าเรามีอาการโลหิตจาง เลือดน้อย เป็นลมบ่อย อธิบายแบบการทำงานของร่างกาย  ถ้าส่วนหนึ่งมีปัญหา ส่วนอื่นก้อรวนไปหมด ร่างกายไม่สมดุล นอนไม่หลับ แล้วก็พาลเป็นโรค อะไรประมาณนี้ เราก็อึ้งๆเพราะถูกเกือบหมด ( ก่อนหน้าเราไปตรวจสุขภาพประจำ ผลออกมาเลือดจางเล็กน้อย แต่ไม่ได้เป็นอะไรมากมาย แต่จะทำให้อ่อนเพลียง่าย ) เลยเข้าไปในร้าน หมอก็จัดยาให้ว่าควรกินตัวนี้ๆ เป็นยาน้ำดำขวดใหญ่ 500 มล. ประมาณ 3 ขวด แล้วก็บอกสรรพคุณแต่ละขวด  แต่ละขวดมีฉลากยา สรรพคุณ ส่วนประกอบ รับรองโดยแพทย์แผนไทย วันที่ผลิต วันหมดอายุ ดูน่าเชื่อถือ หมอบอกกินแบบนี้ 3 เดือนหายขาด เราก็อึกอักเพราะไม่เคยกินยาไทย หมอเลยบอกว่างั้นกินขวดนี้ตัวเดียวก่อนก็ได้ แล้วอีกเดือนค่อยมาตรวจใหม่ หมอมาอีกทีเดือนหน้า ร้านจริงๆอยู่แถวดอนหวาย กลัวจะไกล แล้วรู้สึกว่าเหมือนหมอไม่อยากให้เราจ่ายเยอะ ทั้งที่จริงๆเราก็พร้อมจะจ่าย เราชอบอะไรที่บำรุงร่างกายอยู่แล้ว ส่วนตัวเราอดนอนบ่อย นอนหลับยาก เหนื่อยง่าย เราก็โอเคซื้อมา1 ขวด เป็นยาบำรุงเลือด ยาสตรีไว้ฟอกเลือดก่อน หมอบอกให้กินวันละ 1 ช้อนโต๊ะ เราก็โอเค พอเสร็จของเรา เราก็ให้แฟนลองตรวจบ้าง อยากรู้เล่นๆ แฟนเราตัวสูงใหญ่ ท่าทางแข็งแรง หมอก็จับชีพจร ดูลิ้นเหมือนเรา บอกอย่างหน้าเครียดเลยว่า แฟนเราเลือดข้น ระดับที่ 3 มีอาการงี้ๆๆ ซึ่งแฟนเราบอกใช่เลย เค้ากินน้ำน้อย กินน้ำเยอะๆน่าจะช่วยได้ แต่หมอบอกไม่ทันแล้ว ต้องกินยาละลายลิ่มเลือด ยานั่นนี่หลายตัวอยู่ ไม่งั้นเดี๋ยวจะพาลทำให้เส้นเลือดอุดตันได้ แฟนเราก็อึ้งๆเสียเซล์ฟไปเลย นึกว่าตัวเองแข็งแรงดีไง (ตอนตรวจสุขภาพประจำปีก็ไม่มีไร ผลเลือดปกติ ) แฟนเราเลยยังไม่ซื้อยา หมอก็ไม่ว่าไร ไม่ตื๊อ ลดราคาแล้วก็แถมยาอมยาหม่องให้ เบ็ดเสร็จหมดไป แค่ 250 บาท กลับไปด้วยความงงๆ เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ก็อยากลอง พอกลับบ้านเอายามาทาน ยาก็มีรสเหมือนยาธาตุบวกน้ำมันตับปลา เราก็เทใส่แก้วเล็กๆกิน 3 วันแรกที่กินรู้สึกได้เลยว่า กินอาหารอร่อยมากๆ ขนาดว่าถามแม่ว่าซื้อกับข้าวจากที่ไหน อร่อยจังเลย เวอร์มาก ทั้งๆที่ปกติไม่หิวก็ไม่กิน ไม่ค่อยอยากอาหาร ตอนหลังมารู้ว่าเพราะฤทธิ์ยานั่นเอง แต่ก็มีอาการสักอาทิตย์ได้ สักพักเริ่มอยู่ตัวกลับมากินปกติ ส่วนอาการอย่างอื่นคือเหมือนจะหลับง่ายขึ้น ไม่ค่อยเพลีย  รู้สึกเลือดมันวิ่งอะ บางทีเราอดนอนมากๆ เพราะนอนไม่ค่อยหลับแต่ต้องตื่นเช้ามาก ตี 4ได้ หัวจะอื้อๆงงๆ พอกินยานี้รู้สึกสมองแล่นมากขึ้น มีแรงขึ้น หายปวดหัว อันนี้ความคิดเห็นส่วนตัวล้วนๆเลยนะ  สรุปว่าโอเค เลยกินทุกวันจนหมดขวดก่อนถึงเดือนอีก

พอเดือนต่อมา หมอก็มาที่บูทเมืองทองตามที่นัดไว้ คราวนี้มีลูกศิษย์เหมือนเด็กๆมาช่วยตรวจด้วย เราก็มาหาหมอ ทำเนียนๆไปตรวจใหม่ เพราะอยากรู้ว่า คราวที่แล้วหมอมั่วรึเปล่า อาจจะบังเอิญทายถูกก็ได้ หมอก็พูดเหมือนเดิม บอกแฟนเราเลือดข้นมีปัญหาตรงนั้นตรงนี้  ส่วนเราก็เริ่มดีขึ้นแต่ควรกินอีกตัวต่อ คราวนี้เรากับแฟนเลยเชื่อ เพราะว่าถ้าเค้าโม้เค้าไม่น่าพูดได้เหมือนเดิมน่ะ แฟนเราเลยตกลงลองซื้อยาหมอมา 2 ขวด
แล้วก็ได้คุยกับหมอบ้าง ทำให้รู้ว่าหมอเรียนมาทั้งแพทย์แผนปัจจุบัน แผนไทย และแผนจีนละ อ่านตำราเยอะ แต่ส่วนใหญ่เน้นศึกษาจากประสบการณ์จริง เราบอกหมอสนใจอยากเรียนนะต้องทำไงบ้าง  แต่หมอบอกว่าพูดจีนไม่ได้เรียนลำบาก เพราะต้องรู้ลึกละเอียด เหมือนไม่ใช่วิชาที่จะมาเรียนเล่นๆแล้วรักษาคนผิดๆ แล้วต้องหาประสบการณ์อีกหลายปี เลยสำหรับคนเรียนจริงจังเท่านั้น เราเลยหน้าแตกไปเลย แต่ก็คิดในใจ หมอคนนี้ก็ดีเหมือนกันนะ พูดตรงๆดี ไม่ตื๊อขายยาด้วย เพราะเราเห็นเค้าตรวจคนอื่นฟรีๆแล้วคนไม่ซื้อยาก็มี แต่หมอก็ไม่ว่าอะไร ไม่เซ้าซี้แต่บอกให้กินอย่างอื่นแทน รักษาตัวแบบนี้ๆแทน พอแฟนเราเอายาไปกิน ก็บอกเหมือนกันว่า รู้สึกดีขึ้นจริงๆ พอแม่แฟนเค้าเห็นสรรพคุณข้างขวดเลยลองกินบ้าง ก็ติดใจ ให้มาซื้อให้อีก แต่ไม่ว่างมาตรวจเอง (ความรู้สึกที่กินยามันบอกไม่ค่อยได้อะ แต่จะเหมือนมีแรงขึ้น ไม่เพลีย ไม่ปวดหัว เหมือนปรับให้ร่างกายเราสมดุล แล้วจะหลับง่ายเอง หมอเค้าว่างั้น แต่ก็จริงนะ) ล่าสุด แฟนเรากินยาจนหมดก่อน 1 เดือนอีก โทรไปถามหมอก็ยังไม่มาออกบูทเมืองทอง เลยตัดสินใจไปตามแผนที่ๆหมอให้ไว้ คลินิคอยู่แถววัดไร่ขิง หมอประจำที่ตลาดน้ำดอนหวาย  ตอนแรกเราไปคลินิกแต่ไม่เจอหมอคนนี้ เจอหมอคนอื่นแทน เค้าแมะให้แล้วจัดยาเสร็จ ให้ยาเยอะแยะ เหมือนขายเก่ง เราก็ซื้อมาบางส่วน แต่ยาบำรุงไตของแฟนหมด คิดในใจขายดีเหมือนกันวุ้ย ลูกค้าก็เยอะกว่าที่คิดไว้ ส่วนใหญ่ขาประจำ เห็นขับรถมากันหลายคันแน่นคลินิกเลย ขนยาหลายขวดอยู่ เราก็เลยตัดสินใจไปหาหมอคนเดิม ที่ตลาดน้ำดอนหวาย อยากเจอเค้าด้วย แล้วรู้สึกถูกชะตากับหมออย่างบอกไม่ถูก พอไปถึงก็เดินเข้าไปในตลาด เห็นขายของเยอะแยะ ส่วนใหญ่ของกิน เราเพิ่งเคยไปหนแรกอะนะ กว่าจะหาร้านหมอเจอ อยู่ซะติดกับศาลาริมน้ำ เป็นล็อกไม้เก่าๆ โต๊ะเก้าอี้ชุดนึง ไม่มีแอร์ มีพัดลมตัวเดียว แดดส่องหน่อยๆร้อนเลยล่ะ เราก็คิดในใจ หมอไม่ค่อยลงทุนเลย น่าจะติดแอร์ซะ ลูกค้าก็ไม่ค่อยมี เงียบจัง เราก็เข้าไปสวัสดี คราวนี้หมอจำเราได้แฮะ บอกเป็นไงบ้างดีขึ้นยัง ไหนมาตรวจหน่อยสิ ก็ตรวจอีก หมอบอกเราดีขึ้นเยอะ กินอีกนิดหน่อยก็หาย แต่แฟนต้องกินอีก แฟนเราก็บอกว่าบางส่วนเค้าซื้อมาแล้วที่คลินิก แต่ขาดยาบำรุงไต หมอก็ไม่ว่าไร เลยให้ยาบำรุงไตมา บอกว่าขวดสุดท้ายแล้ว ของหมด (ตอนนี้คงมีมาใหม่แล้วล่ะ) แล้วเราก็ชวนหมอคุยอีก ได้ความว่า หมอมีคลินิกที่วัดไร่ขิงที่ทำกะเพื่อน(มั้ง) มีร้านเล็กๆที่ตลาดน้ำดอนหวาย แล้วก็มีเปิดบูทที่เมืองทองเดือนละหน แต่หมอไม่ชอบอยู่ตามคลินิก ชอบประจำบูทมากกว่า ลูกค้าที่ไปหาหมอที่คลินิก ก็ลูกค้าหมอทั้งนั้น หมอให้ไปที่นั่น (เราก็ด้วย)  แต่หมอว่าต่อไปอาจจะไม่ประจำตามบูทแล้วละ เพราะเหนื่อย จะไปสอนหนังสือแทน เพราะทุกวันนี้หมอสอนหนังสือไปด้วยทั้งไทยและจีน เราก็เสียดาย แต่ก็เข้าใจว่าหมอคงไม่ชอบขายจริงๆ หมอจะให้ยาเฉพาะที่จำเป็นเท่านั้น ไม่ยัดเยียดยาให้คนไข้ คนไหนไม่อยากซื้อก็ไม่มีเซ้าซี้ จะบอกทางให้เค้าดูแลตัวเองแทน ส่วนตัวหมอก็เขียมๆ แต่งตัวปอนๆแต่สะอาด ร้านแบบธรรมดา หมอคงชอบการรักษาเงียบๆมากกว่า แล้วหมอก็ยังให้ดูตำราเก่าๆที่หมอเรียนมา เป็นสิบๆเล่ม ตอนหมอเรียนอาจารย์เค้าให้จำให้หมด เข้มงวดมาก หมอเลยได้วิชาจากอาจารย์หมออีกที แล้วก็หมั่นรักษาคนไข้ หาประสบการณ์เยอะๆกว่าจะได้ถึงทุกวันนี้ อืมเราฟังก็น่านับถือนะ ถึงแม้หมอจะไม่ดัง ไม่ได้ร่ำรวยอะไร แต่หมอก็เก่ง และมีจรรยาบรรณที่ดี  ที่คนยากจนก็มารักษาได้ หมอก็พูดจาดี ดูใจดีแบบผู้ใหญ่น่ะ เราเลยอดไม่ไหวมาเล่าประสบการณ์ให้ฟัง กะว่าคราวหน้าไปจะซื้ออาหาร หรือไม่ก็พัดลมไปฝากเหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่งละ

ขั้นตอนการรักษา เริ่มจาก หมอจะจับชีพจร ดูใบหน้า ฝ่ามือ ลิ้น เพื่อวินิจฉัยโรคก่อน แล้วซักถามอาการเรา เพื่อความแน่ใจ แล้วค่อยจัดยา
ยาที่ใช้เป็นยาแผนโบราณ ตามมาตรฐานแพทย์แผนไทย มีฉลาก สรรพคุณ วิธีการใช้ วันที่ผลิต หมดอายุ ส่วนประกอบตัวยา (ตามรูป) เราอ่านดูมีทั้งสมุนไพร ไทยและจีนนะ
ส่วนใหญ่หมอจะจัดให้เป็นยาน้ำดำ ขวดกลม 500 ซีซี หมอบอกว่า ใช้ดี เห็นผลเร็วกว่ายาเม็ด เพราะซึมเข้ากระแสเลือดง่าย
ยารักษาโรคมีหลายอย่าง เช่น เส้นเลือดตีบ ไขข้อกระดูก ลดความอ้วน กามนิต สมอง ประสาท คลายเส้น ภูมิแพ้ ต่อมลูกหมาก ไต หัวใจ ไซนัส คลายเครียด ตับ บาดทะจิต น้ำว่าน 108 โรคตา บำรุงร่างกาย เบาหวาน ตาลขโมย เสมหะ น้ำเหลืองเสีย ความดันสูง มดลูก ยาถ่าย แก้ท้องผูก คลายร้อน มะเร็ง เลือดงาม แก้พิษ ผิดสำแดง กระเพาะ ลำไส้ วัยทอง เริม งูสวัด สะเก็ดเงิน ลิ้นกระด้าง คางแข็ง ปากเบี้ยว และอื่นๆ (ลอกมาจากแผ่นพับ)
ยาที่ให้จะไม่หักล้างกับแผนปัจจุบัน กินควบคู่กันได้ ไม่ล้างกัน ไม่ตีกัน ฉลากเค้าบอกไว้ หลักการรักษาจะตามแผนตะวันออก ไทย จีน เน้นแบบองค์รวม ปรับสมดุลภายใน คือจากสาเหตุ ไม่ใช่รักษาตามอาการ ( แบบปวดหัว ถ้ากินยาแก้ปวดหัวแบบแผนปัจจุบัน มันระงับก็ไม่หายขาด สะสมในตับอีก ซึ่งการปวดหัวอาจจะเกิดจากอวัยวะบางอย่างทำงานผิดปกติก็ได้ หรือ นอนไม่หลับ เป็นผลจากการทำงานร่างกายมันไม่ปกติ เลยหลับยาก พอใช้งานหนักๆแล้วพาลเป็นอย่างอื่นอีก อย่างงี้ก็ควรลองมาตรวจดู)
หมอแมะนี่เค้าจะเก่งเรื่องอวัยวะภายใน จับการเต้นชีพจร หนักเบา สะดุดตรงไหน จากเส้นลมปราณที่เดินทั่วร่างกายของเรา ซึ่งเราจะรู้ได้ก่อนที่เราจะเป็นโรค หมอปัจจุบันบางทียังตรวจไม่เจอซะด้วยซ้ำ กว่าจะรู้ก็โรคมานั่นละ หรือไม่ก็ ตรวจแล้วไม่เจอโรคเลย แต่เราก็ไม่หายสักที อันนี้ก็ควรลองมารักษา  แต่การรักษาแบบนี้ต้องใช้เวลา
เรื่องคนอยากท้องอีก อันนี้เค้าว่ากันว่าเก่งมาก ใครอยากท้องน่าจะลองปรึกษาดู หมอแมะนี่ใครมีประจำเดือน หรือท้องอยู่ เค้าก็รู้น่ะ นอกเรื่องหน่อย  เรานี่อยากรู้มากว่าเค้าแมะยังไง แต่ไม่ค่อยกล้าถาม ทราบมาว่า หมอเค้าบอกว่าฝึกมานานแล้ว อาจารย์เค้าฝึกให้ แบบเข้มงวดมาก ให้อ่านตำราอย่างหนัก จำให้ได้หมด ฝึกประสาทสัมผัสโดยแบมือหลับตา โรยน้ำตาลไว้ที่แขน เอามดมาไต่ ตอบให้ได้ว่ามดมันเดินไปกี่เซ็น แล้วตรงท้องแขนหมอเค้าแข็งมาก เพราะเค้าจับชีพจรมานาน จนเหมือนกับกล้ามขึ้น ทำให้รู้ว่าคนที่แมะเก่งๆมือต้องแม่นจริงๆ ประสาทไว ประมาณนั้น
เราว่าหมอเค้าเหมือนจอมยุทธหนังจีนเลย แบบฝึกวิชาหนักๆ พอเก่งแล้วแก่แล้ว ก็ออกมาอยู่สำนักเงียบๆ ใช้ชีวิตสันโดษ ไม่ยึดติดเงินทองมามาย คอยถ่ายทอดให้คนรุ่นหลังต่อ
-------------------------------------------------------------------------------
จากประสบการณ์เราและแฟน ที่ใช้ยาเลือดงามและยาบำรุงร่างกาย 10 นาทีรู้สึกเลยว่ายาซึมเข้าไปในเลือดเร็วมาก เวลาเพิ่งตื่น อ่อนเพลีย ง่วงๆงงอยู่ เรากินยานี้แล้วรู้สึกเลือดมันวิ่ง มีแรงขึ้น หายเบลอ คล้ายกับกินน้ำมันตับปลาน่ะ แต่จะเร็วกว่า และไม่อิ่มเท่า ไม่ง่วง แรกๆที่ใช้ยาจะอยากอาหาร เพราะหลักการรักษาจะตั้งต้นที่กระเพาะ ถ้าไม่กิน ก้อไม่มีแรง ดูดซึมไม่ดี สารอาหารก็เข้าไปบำรุงไม่ได้ ประมาณนั้น

คนที่กินอะไรไม่ลง กินไม่เป็นเวลา เครียดแล้วกินข้าวไมได้นี่น่าลอง , ถ้าเทียบกับกาแฟ กาแฟจะออกฤทธิ์ช้ากว่าแล้วอาจจะทำให้บางคนปวดหัวได้ เหมือนกับฝืนร่างกายให้ตื่น เราเลยโอเคกับยานี้ กินแล้วเฟรชดี มีแรงทำงาน
แล้วเราซื้อยาทีนี่กินกันทั้งบ้านเลยนะ อย่างยาสตรี ยาบำรุงร่างกาย แต่ถ้าใครไม่เคยตรวจ น่าจะไปลองตรวจก่อนเพื่อความปลอดภัยค่ะ

--------------------------------------------------------------------- ถ้าใครว่างๆก็ไปลองไปรักษากับหมอแมะได้นะ ชื่อคุณหมอแมะ ศักดิ์ชัย ( มีใบอนุญาตนะ) เบอร์โทร 086-0533698 ประจำที่ ตลาดน้ำดอนหวาย อยู่ตรงริมน้ำใกล้ท่าเรือ ติดกับร้านเพชรทอง ถามแม่ค้าแถวนั้นได้ ( ร้านหันหน้าออกแม่น้ำ ) เราประทับใจหมอมากเลยมาโฆษณาให้ฟรี อยากคนรายได้น้อยมีโอกาสรักษา และอยากให้หมอมีกำลังใจในการทำงาน เท่าที่รู้เดี๋ยววันที่ 29 ตค จะมีไปเปิดบูทที่เมืองทอง นัดเจอหมอได้ค่ะ หมอค่อนข้างขาว จีนๆค่ะ ------------------------------------------------------------------------------------------------
หลายคนคงอยากเห็นหน้า หมอแมะ หรือร้านเค้า แต่เราไม่ได้ถ่ายรูปไว้น่ะ เพราะเกรงใจด้วย เลยถ่ายแต่รูปยาที่ซื้อมา
ปกติเราไม่ค่อยจะพิมพ์อะไรยาวๆ แต่เราเล่าเรื่องนี้ให้ฟัง เพราะเป็นวิทยาทานด้วยนะ สำหรับคนไม่เคยลองการรักษาแบบนี้  สุดท้ายก็ขอให้คุณหมอแมะ ศักดิ์ชัย และทุกท่านที่อ่าน สุขภาพแข็งแรงนะคะ มาคุยกันต่อที่เวปนี้ http://www.pantown.com/board.php?id=159&area=1&name=board1&topic=371&action=view