ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร บิลเบอร์รี่สกัด (Bilberry) ช่วยลดการเมื่อยล้าของดวงตา ทำให้การมองเห็นชัดขึ้น และผลิภัณฑ์เสริมอาหารอื่น ๆ อีกมากมาย

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร บิลเบอร์รี่สกัด (Bilberry) 
ช่วยลดการเมื่อยล้าของดวงตา ทำให้การมองเห็นชัดขึ้น

ส่วนประกอบ บิลเบอร์รี่สกัด 120 มก., ชาเขียวสกัด 90 มก., ไวตามินซี 60 มก.

ขนาดรับประทาน
1 เม็ดพร้อมอาหาร, วันละ 3 ครั้ง (1 ขวด 60 เม็ด) ราคา  310 บาท


จากผลการรายงานศึกษาพบว่า ผลบิลเบอร์รี่ (Bilberry) เป็นสาร แอนติออกซิแดนท์ (Antioxidant) ที่มีประสิทธิภาพ เมื่อคนเรามีอายุเพิ่มมากขึ้น สำหรับในบางคนแล้วก็อาจจะมี การมีภาวะออกซิเดชั่นสูงในร่างกาย (Oxidative stress) ที่เกิดขึ้นจากอนุมูลอิสระ (Free Radicals) เพิ่มมากขึ้นกว่าผู้อื่นได้ ความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อเนื้อเยื่อของดวงตา (Ocular Tissues) ก็อาจนำไปสู่การเกิดโรคเกี่ยวกับตาอื่นๆ ได้มากมายหลายโรค ดังนั้น เมื่อผลบิลเบอร์รี่ ทำหน้าที่เติมมออกซิเจนให้แก่เนื้อเยื่อได้มากขึ้น ก็จะช่วยทำให้สามารถป้องกันการเกิดโรค ภาวะแทรกซ้อนทางสายตา (Diabetic retinopathy) โรคจอตาสาเหตุจากเบาหวาน ลดระดับการพัฒนาของภาวะ การเสื่อมของการโฟกัสภาพ (Macula Degeneration) ให้น้อยลง และหยุดพัฒนาการของการเกิด ต้อกระจก (Cataract) ด้วย นอกจากนี้ยังพบว่าสารสกัดจากผลบิลเบอร์รี่ ยังช่วยชะลอพัฒนาการของภาวะความขุ่นมัวของกระจกตา (Lens Opacities) ได้ถึง 97% จากกลุ่มตัวอย่างทั้งหมด ทั้งนี้ ความดันในลูกตายังนับว่าเป็นปัจจัยเสี่ยงอีกประการหนึ่งที่ทำให้เกิดภาวะ โรคตาแข็ง (Glaucoma) ขึ้นได้ ซึ่งจากการศึกษาหนึ่งในปี 2008 พบว่า ผู้ป่วยที่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์จากผลบิลเบอร์รี่ ซึ่งมีส่วนประกอบหลายอย่างประกอบกันนั้นมีระดับความดันในลูกตาที่ลดน้อยลงหลังจากได้มีการใช้ผลิตภัณฑ์ดังกล่าวผ่านไป 3 เดือน   ชาเขียวนั้นทำมาจากใบชาสดที่ไม่ผ่านกระบวนการใดๆ และมีการรายงานว่าชาเขียวนั้นมีสาร แอนติออกซิแดนท์ (Antioxidants) ที่มีความเข้มข้นและประสิทธิภาพสูงซึ่งมีชื่อว่า สาร โปลีฟีนอล (Polyphenols) สำหรับสาร แอนติออกซิแดนท์ นั้นเป็นสารที่ทำหน้าที่ต่อต้านสารอนุมูลอิสระ (Free Radicals) ซึ่งเป็นสารประกอบในร่างกายที่สามารถสร้างความเสียหายหรือการเปลี่ยนแปลงให้เกิดขึ้นแก่เซลล์ได้ ทำให้ สารพันธุกรรม (DNA) มีความผิดปกติ รวมทั้งอาจทำให้เซลล์ตายได้ นักวิทยาศาสตร์หลายคนเชื่อว่าสารอนุมูลอิสระ นั้นเป็นส่วนที่ทำให้เกิดกระบวนการการชรา รวมทั้งทำให้ปัญหาด้านสุขภาพต่างๆ เกิดขึ้นหลายประการ ตลอดจนทำให้เกิดโรคมะเร็งและโรคหัวใจด้วย สาร แอนติออกซิแดนท์ เช่น โปลีฟีนอล ที่อยู่ในชาเขียวนั้นสามารถทำให้สารอนุมูลอิสระ มีความเป็นกลาง และอาจช่วยลดหรือแม้กระทั่งช่วยป้องกันความเสียหายต่างๆ ที่อาจจะเกิดขึ้นได้จากสารอนุมูลอิสระ ดังกล่าว หนึ่งถ้วยของชาเขียวมีแอนติออกซิเดนท์เท่ากับ 150 มก. ของวิตามินซีบริสุทธิ์ สารโปลีฟีนอลที่พบในชาเขียว สามารถป้องกันโรคตาแข็ง โรคต้อกระจก และโรคเกี่ยวกับตาที่พบบ่อย โดยจากการรายงานของนิตยสาร "Journal of Agricultural and Food Chemistry" สารโพลีฟีนอลในชาเขียว ชือเคเทซิน (Catechins) สามารถป้องกันโรคทางสายตา จากการววิจัยได้ทดลองกับหนู โดยให้หนูดื่มชาเขียว พบว่าหลังจากหนูดิ่มชาเขียวตาได้รับเคเทซินจำนวนมาก ทำให้ป้องกันแอนติออกซิเดนท์จากสายตาได้นานถึง 20 ชั่วโมง ประโยชน์อื่นๆ ของผลบิลเบอร์รี่ ผลบิลเบอร์รี่ เป็นสาร แอนติออกซิแดนท์ ที่มีประสิทธิภาพ โดยเป็นผลไม้ที่มีคุณสมบัติ ป้องกันหลอดเลือดดำ (Vasoprotective) และ ป้องกันการเกิดโรคบวมน้ำ (Antioedemal) จากผลการศึกษาพบว่าผลบิลเบอร์รี่ นี้มีประสิทธิภาพในการทดสอบการประเมินความสามารถในการซึมผ่านของรูขุมขน (Skin Capillary Permeability) และการประเมินความต้านทานของเส้นเลือด โดยทั่วไป ในทวีปยุโรปมักจะมีการนำสารสกัดจากผลบิลเบอร์รี่ ไปใช้เพื่อการรักษาภาวะ ขาดแคลนเลือดดำเรื้อรัง (Chronic Venous Insufficiency - CVI) มีการกล่าวว่า ผลบิลเบอร์รี่ นั้นจะทำให้ คอลลาเจน (Collagen) ในร่างกายของเรามีอยู่ในสภาพดีอย่างต่อเนื่อง คอลลาเจน มีหน้าที่ในการดูแลรักษาเส้นเอ็น (Tendon, Ligament) และกระดูกอ่อน (Cartilage) ให้มีสภาพที่สมบูรณ์อยู่เสมอ เมื่อมีสภาวะต่างๆ เช่น เมื่อเกิดโรค โรคข้ออักเสบ (Arthritis) ซึ่งเนื้อเยื่อเชื่อมต่ออวัยวะต่างๆ ถูกทำลายและเกิดช่องว่างในเนื้อเยื่อขึ้นนั้น ก็สามารถนำ ผลบิลเบอร์รี่ มาใช้รักษาได้ จากข้อมูลการศึกษามีการรายงานว่าผลบิลเบอร์รี่ นั้นจะช่วยทำให้พันธะของ คอลลาเจน ที่เชื่อมต่อกันและกันไว้มีความแข็งแรงมากยิ่งขึ้นและยังช่วยกระตุ้นการสร้าง คอลลาเจน และ Mucopolysaccharides ในร่างกายของเราอีกด้วย เมื่อ คอลลาเจน มีความแข็งแรงขึ้นแล้ว ช่องว่างหรือรูต่างๆ ในสมอง (Brain Capillary) ก็จะมีความสมบูรณ์แข็งแรงมากยิ่ง ตลอดจนช่วยลดอัตราการแทรกซึมเข้ามาของสารพิษต่างๆ อีกด้วย นอกจากนี้ ยังมีการรายงานด้วยว่าสารประกอบที่ได้จาก ผลบิลเบอร์รี่ นั้นสามารถยับยั้งมิให้เกิดสารต่างๆ ที่จะทำให้เกิดการอักเสบได้ เช่น Histamine, Protease, Leukotrienes และ Prostaglandins นับแต่ในอดีตจนถึงปัจจุบันนี้ ได้มีการใช้ผลบิลเบอร์รี่ ในการรักษาอาการต่างๆ ของโรคเส้นเลือดอุดตัน โดยไม่มีการรายงานว่า ผลบิลเบอร์รี่ นั้นสามารถยับยั้งการไหลรวมกันของเกล็ดเลือดซึ่งอาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดโรค โรคท่อเลือดแดงและหลอดเลือดแดงแข็ง (Atherosclerosis) และเกิดภาวะเลือดจับตัวกันเป็นก้อนได้