โรงงานผลิตเครื่องสำอาง มาตรฐาน ISO:GMP คุณภาพส่งออก ให้บริการคำปรึกษาฟี

  สวัสดีครับ เราเป็นโรงงานผลิตเครื่องสำอางมาแนะนำสินค้าและให้คำปรึกษาฟร ี สำหรับผู้ที่ต้องการทำสินค้าเครื่องสำอางเป็นของตัวเองเรามีทีม งานที่จะช่วยบริการเกี่ยวกับสินค้าและในเรื่องการจัดทำเอกสารต่างๆให้ลูกค้าทุกท่านสะดวกมากที่สุดและถูกกฎหมาย วันนี้ผมมีวิธีการคิดแบบคร่าวๆมาให้ทุกท่านลองพิจารณาดูครับ ถ้าสนใจสามารถขอเทสเตอร์ ทดลองใช้และใบราคาได้ครับ ถ้าใช้บริการที่อื่นอยู่แล้วก็สามารถขอคำปรึกษาได้เช่นกันครับ ยืนดีให้คำปรึกษาไม่มีค่าใช้จ่ายกับข้อผูกมัดใดๆครับ   ต้องการแบรนด์เครื่องสำอางของตัวเอง ต้องทำอย่างไรบ้าง   แหล่งที่ผลิต-ขายส่งผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางมีที่ไหนบ้าง ควรพิจารณาเลือกที่ผลิตผลิตภัณฑ์อย่างไร นอกจากผลิตภัณฑ์จะต้องมีประสิทธิภาพเห็นผลลูกค้าพอใจและซื้อซ้ำ คุณยังต้องเลือกผลิตภัณฑ์ที่ปลอดภัยและสามารถจำหน่ายได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย หน่วยงานที่รับรองมาตรฐานของโรงงานผลิตเครื่องสำอางคือคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) คุณสามารถดูรายชื่อโรงงานผลิตเครื่องสำอางที่ได้รับรองมาตรฐาน GMP ได้ที่ http://www.fda.moph.go.th/fdanet/html/product/cosmetic/cosmetic/page/index.html">http://www.fda.moph.go.th/fdanet/html/product/cosmetic/cosmetic/page/index.html  โดยเลือกโรงงานที่เหมาะสมกับธุรกิจของคุณ โดยพิจารณาจาก ชนิดของผลิตภัณฑ์ที่แต่ละโรงงานผลิต เงื่อนไขจำนวนการสั่ง ราคา และการบริการอื่นๆ ไม่แนะนำให้ซื้อจากแหล่งผลิตที่ไม่ได้มาตรฐานหรือจากร้านขายส่ง ที่ไม่สามารถยืนยันสถานที่ผลิตได้ เพราะผิด พรบ.เครื่องสำอาง หากคุณเป็นผู้จำหน่ายมีความผิดอาญาอาจโดน อย.ตรวจจับได้ จะเลือกขายเครื่องสำอางสูตรไหนดี และถ้ามีเครื่องสำอางของนอกที่เคยใช้อยู่เห็นผลดีอยากได้สูตรแบ บนี้บ้างจะทำได้ไหม มีทีไหนรับทำหรือให้คำปรึกษาบ้าง โรงงานผลิตเครื่องสำอางที่มีมาตรฐานทุกโรงจะมีแผนกวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ ซึ่งสามารถพัฒนาสูตรเครื่องสำอางตามความต้องการของคุณได้ ความชำนาญและเงื่อนไขการทำงานของโรงงานแต่ละที่ก็ต่างกันไป คุณควรสอบถามโดยตรงจากแต่ละโรงงานว่ามีความชำนาญในผลิตภัณฑ์ประ เภทไหนและมีเงื่อนไขในการพัฒนาสูตรอย่างไร มีค่าใช้จ่ายเท่าไร และต้องสั่งผลิตขั้นต่ำเท่าไร คุณควรเลือกโรงงานมาตรฐานที่เป็นมืออาชีพเพื่อรักษาเอกสิทธ์ของ แบรนด์คุณ จำหน่ายเครื่องสำอางอย่างถูกต้องตามกฎหมาย ต้องทำอย่างไรบ้าง สิ่งที่ต้องทำมีดังนี้ ·                                     เลือกผลิตภัณฑ์จากโรงงานที่มีมาตรฐาน  โดยเลือกโรงงานที่ได้มาตรฐาน GMP จดทะเบียนถูกต้อง ·                                     ผลิตภัณฑ์ต้องไม่มีส่วนประกอบของสารห้ามใช้ในเครื่องสำอาง  รายการสารห้ามใช้ดูได้จาก http://www.fda.moph.go.th/fdanet/html/product/cosmetic/cosmetic/dat/article/Banned.htm">http://www.fda.moph.go.th/fdanet/html/product/cosmetic/cosmetic/dat/article/Banned.htm    ·                                     ฉลากผลิตภัณฑ์ต้องมีข้อความครบถ้วนตามกำหนด http://www.fda.moph.go.th/fdanet/html/product/cosmetic/cosmetic/dat/article/lblstt.html">http://www.fda.moph.go.th/fdanet/html/product/cosmetic/cosmetic/dat/article/lblstt.html       ·                                     ผลิตภัณฑ์ต้องขึ้นทะเบียนเครื่องสำอางที่ อย.  รายการสิ่งที่ต้องทำทั้งหมดเบื้องต้น โรงงานหลายแห่งให้บริการแบบครบวงจรสามารถให้คำแนะนำเรื่อง สูตรเครื่องสำอาง การดีไซน์บรรจุภัณฑ์และข้อความบนฉลาก ตลอดจนดำเนินการขึ้นทะเบียนเครื่องสำอางแทนคุณได้คุณได้ไม่ต้อง กังวล จะหาซื้อบรรจุภัณฑ์ ทำฉลากและกล่องบรรจุภัณฑ์สำหรับสินค้าได้ที่ไหน แหล่งขายส่งบรรจุภัณฑ์เครื่องสำอางใหญ่ของประเทศไทยอยู่ที่บริเวณถนนหลานหลวง มีหลายร้านให้เลือก หากคุณต้องการบรรจุภัณฑ์แบบพิเศษเฉพาะของคุณเองไม่ซ้ำใครก็สามา รถสั่งผลิตกับโรงงานผลิตบรรจุภัณฑ์ในประเทศและต่างประเทศได้ขึ้นกับแบบและจำนวนที่คุณต้องการจะใช้ ถ้าสั่งผลิตคงต้องมีจำนวน 3000 ชิ้นขึ้นไป ถ้าไม่อยากลงทุนมากในเบื้องต้นน่าจะลองเลือกดูจากร้านขายส่ง การเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ให้เหมาะสมกับชนิดและคุณสมบัติของเครื่อง สำอางก็มีความสำคัญ เพราะเครื่องสำอางหลายชนิดอาจทำปฏิกิริยากับบรรจุภัณฑ์ทำให้ผลิตภัณฑ์เสื่อมประสิทธิภาพเกิดความเสียหายได้ จึงแนะนำว่าควรเลือกใช้บรรจุภัณฑ์ที่ความเหมาะสมก่อนที่ความสวย งาม ควรเลือกใครดีไซน์แบบผลิตภัณฑ์ และทำกล่อง ฉลาก มีที่ไหนรับทำหรือให้คำปรึกษาบ้าง ดีไซน์เนอร์สำหรับงานทั่วไปมีมาก แต่คุณควรเลือกดีไซน์เนอร์ที่มีความชำนาญในการออกแบบผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางโดยเฉพาะ เพราะผลิตภัณฑ์เครื่องสำอางมีข้อกฎหมายเฉพาะที่ควบคุมฉลาก และมีข้อจำกัดปลีกย่อยอื่นๆที่ดีไซน์เนอร์ทั่วไปอาจไม่รู้ ส่วนการเลือกโรงพิมพ์ที่พิมพ์กล่องและฉลากก็เช่นกันควรเลือกที่ รับพิมพ์งานกล่องฉลากเครื่องสำอางโดยเฉพาะ เพราะจะมีความปราณีตและเนื้อกระดาษที่สวยงามให้เลือกมากกว่าโรง พิมพ์งานพิมพ์ทั่วไป จะทำแบรนด์เครื่องสำอาง ต้องใช้เงินลงทุนเท่าไร (ไม่รวมงบโฆษณา การตลาด) อันนี้แล้วแต่ขนาดธุรกิจของคุณ ปัจจัยที่มีผลต่อจำนวนเงินลงทุน คือ จำนวนสินค้าที่คุณต้องการ จำนวนการสั่งผลิตขั้นต่ำที่โรงงานกำหนด จำนวนสั่งบรรจุภัณฑ์ขั้นต่ำในกรณีสั่งผลิตบรรจุภัณฑ์ จำนวนพิมพ์กล่องและฉลาก ราคาต้นทุนของเนื้อผลิตภัณฑ์และบรรจุภัณฑ์ที่คุณเลือก คงบอกจำนวนที่แน่นอนไม่ได้แต่คงให้ตัวอย่างประมาณการได้คร่าวๆ ดังนี้ ·                                     โฟมล้างหน้า ขนาด บรรจุหลอด 60 กรัม จำนวน 150 หลอด @ 30 บาท รวม 4,500 บาท   ·                                     ไวท์เทนนิงเดย์ครีม ขนาด บรรจุกระปุก 20 กรัม จำนวน 150 หลอด @ 60 บาท รวม 9,000 บาท ·                                     ไนท์ครีมลดริ้วรอย ขนาด บรรจุกระปุก 20 กรัม จำนวน 150 หลอด @ 75 บาท รวม 11,250 บาท ·                                     ครีมกันแดด SPF60 ขนาด บรรจุหลอด 25 กรัม จำนวน 150 หลอด @ 50 บาท รวม 7,500 บาท ·                                     รวมเป็นชุดเครื่องสำอาง 4 ชนิดในแบรนด์คุณ จำนวน 150 ชุด ลงทุน 32,250 บาท ขายชุดละ 950 บาท ได้เงิน 142,500 บาท กำไร 110,250 บาท ความต้องการของลูกค้าเลยครับ แต่ว่าแท้จริงแล้ว คาถาไม่เจ๊ง กล่าวไว้ว่า “สต๊อกน้อย ใช้งบการตลาดให้ต่ำ และไม่ฝากขาย” ดังนั้นหากท่านสามารถจัดหาโรงงานที่สามารถสั่งผลิตในปริมาณน้อย ๆ ได้ก็น่าจะดีใช่ไหมครับ เพราะว่าคุณไม่ต้องแบกสต๊อกให้เป็นภาระอันน่าปวดหัว ซึ่งจริง ๆ แล้วเริ่มลงทุนเพียงหลักหมื่นก็น่าจะเพียงพอนะครับ   สนใจติดต่อขอคำปรึกษา ได้โดยตรงที่คุณ สุขุม 084-773-2092,085-132-4556 [email protected] http://www.cosmaprof.net/">www.cosmaprof.net